วันนี้ (20 เม.ย.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีมีการรายงานข่าวว่ามีผู้ป่วย COVID-19 จาก อ.เทิง จ.เชียงราย ได้กลับเข้ามารักษาซ้ำที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์นั้น ล่าสุดศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) จ.เชียงราย ยืนยันว่า ผู้ป่วยจาก อ.เทิง คนดังกล่าวได้กลับเข้ามารับการรักษาที่ รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ ตามที่เป็นข่าวจริง
พร้อมให้ข้อมูลว่า ก่อนหน้านี้ผู้ป่วยคนดังกล่าวได้เข้ารับการรักษาโรค COVID-19 ที่ รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ ตั้งแต่วันที่ 20 มี.ค.2563 จนจบสิ้นกระบวนการรักษาและอนุญาตให้ออกจาก รพ.ในวันที่ 6 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยผู้ป่วยมีสุขภาพร่างกายปกติ ไม่มีไข้ หรืออาการทางระบบทางเดินหายใจ ซึ่งหลังจากนั้นหน่วยงานด้านสาธารณสุขยังคงให้ผู้ป่วยกักตัวเองที่บ้าน สวมหน้ากากอนามัย และแยกตัวจากครอบครัวและชุมชนต่อเนื่องจนครบ 14 วัน โดยมีการติดตามสุขภาพและวัดไข้ทุกวัน
แต่ในระหว่าง 14 วันของการเฝ้าติดตามอาการที่บ้าน พบว่าผู้ป่วยมีอาการไข้ ไอ จึงแนะนำให้ผู้ป่วยเข้าตรวจและรับการรักษาเพื่อหาสาเหตุ โดย รพ.เทิง ได้ประสานส่งผู้ป่วยไปยัง รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ ในวันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมา
ทีมแพทย์ได้ประเมินอาการและตรวจทางห้องปฏิบัติการ เบื้องต้นพบว่ามีอาการเข้าได้กับโรคปอดอักเสบ โดยเชื้อก่อโรคปอดอักเสบมีความเป็นไปได้จากทั้งเชื้อไวรัสอื่นๆ และแบคทีเรีย จึงต้องส่งตรวจพิเศษอย่างละเอียดเพิ่มเติม พร้อมเฝ้าระวังอาการและติดตามการตรวจหาเชื้อ COVID-19 ซ้ำ รวมถึงภูมิคุ้มกันของผู้ป่วยต่อเชื้อ COVID-19 ด้วย โดยได้ให้ผู้ป่วยรักษาตัวในห้องแยกโรค รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ ซึ่งปัจจุบันอาการผู้ป่วยคนดังกล่าวไม่มีไข้ มีอาการไอเล็กน้อย สามารถเดินและช่วยเหลือตัวเองได้ตามปกติ
ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนกกับข่าวดังกล่าว ซึ่งหน่วยงานด้านสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เฝ้าระวัง ติดตามสุขภาพผุ้ป่วยทุกคนที่ออกจากโรงพยาบาลไปแล้ว และขอให้เชื่อมั่นระบบการดำเนินงานเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมโรคของ จ.เชียงราย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
คนแรก! "เชียงราย" ป่วย COVID-19 จากกลุ่มสถานบันเทิง
หนีโรคระบาด! 8,900 คนขออพยพกลับไทย
"แพทยสภา" ชวนหมอทั่วไทยร่วมสมัครหมออาสาสู้ COVID-19