จนท.อพยพชาวบ้านลงจากบางกลอยบน ชี้ผิดข้อตกลง

สิ่งแวดล้อม
22 ก.พ. 64
18:56
1,027
Logo Thai PBS
จนท.อพยพชาวบ้านลงจากบางกลอยบน ชี้ผิดข้อตกลง
เจ้าหน้าที่อพยพชาวบ้าน 33 คนออกจากบางกลอยบน อ้างรุกป่า 120 ไร่ ด้าน กป.อพช.ภาคใต้ ประณามภาครัฐไม่ทำตามสัญญา

วันนี้ (22 ก.พ.2564) เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้เฮลิคอปเตอร์บินตรวจสอบการบุกรุกพื้นที่ป่าบางกลอยบนตาม "ยุทธการพิทักษ์ป่าต้นน้ำเพชร" พบว่า มีป่าถูกถางและเผาไม่น้อยกว่า 120 ไร่ เพิ่มจากเดิมที่เคยสำรวจไว้เมื่อวันที่ 23 ม.ค. ซึ่งมีอยู่เพียง 34 ไร่

 

ขณะที่ชาวบ้านกะเหรี่ยงประมาณ 50 คน ได้เดินทางไปที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานที่ 10 หรือ ห้วยแม่สะเลียง เพื่อเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ที่เข้ามาปฏิบัติการปลดอาวุธ โดยอ้างถึง MOU ที่ตกลงไว้กับรัฐบาลแต่เจ้าหน้าที่ปฏิเสธ

ระหว่างนั้นมีรายงานว่ามีชาวบ้านจำนวน 33 คน เข้ามารุกป่าในพื้นที่บางกลอยบน เจ้าหน้าที่จึงใช้เฮลิคอปเตอร์ลำเลียงชาวบ้านทั้งหมดมายังหน่วยห้วยแม่สะเลียง 

 

นางวัฒนา วชิโรดม เลขาธิการเครือข่ายการจัดการป่าและน้ำ เปิดเผยว่า จากการบินสำรวจพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นป่าอุดมสมบูรณ์มีเพียงพื้นที่บางกลอยบนเท่านั้นที่พบบุกรุกป่าจากชาวบ้าน ซึ่งตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด เมื่อวันที่ 31 พ.ค.2561 ระบุไว้อย่างชัดเจนว่าชุมชนไม่มีสิทธิ์จะกลับไปอยู่ที่เดิม และพื้นที่ที่มีการจัดสรรให้กับชาวบ้านก็มีที่ทำกินและสาธารณูปโภคพร้อม

ก่อนหน้านี้ได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลง ระหว่างตัวแทนของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กับตัวแทนขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม ตัวแทนภาคีเซฟบางกลอย และชาวกะเหรี่ยงบ้านบางกลอย เพื่อแก้ไขปัญหากรณีบ้านบางกลอย-ใจแผ่นดิน แต่หลังทำข้อตกลงเจ้าหน้าที่ได้บินสำรวจพบมีการบุกรุกป่าเพิ่มและมีหลักฐานว่าชาวบ้านบางคนได้เข้าไปล่าสัตว์ป่า

ขณะที่กลุ่มชาติพันธุ์ได้ออกมาตั้งคำถามกับข้อกล่าวหานี้และขอให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติตาม MOU ที่ทำไว้ก่อนหน้านี้

 

ด้านคณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชนภาคใต้ (กป.อพช.ใต้) ออกหนังสือแถลงการณ์ประณาม รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยระบุ ภาครัฐไม่ได้ทำตามคำมั่นสัญญาที่ทำกันไว้ พยายามบ่ายเบี่ยงและสร้างเงื่อนไขต่าง ๆ ให้กับชาวบ้านกลับใจแผ่นดิน ก่อนจะมีคำสั่งอพยพชาวบ้านอีก ครั้งในวันนี้

ล่าสุด หลังจากที่เจ้าหน้าที่ทำความเข้าใจกับชาวบ้านที่บุกรุกแล้ว ทุกคนก็ยินยอมที่กลับไปอยู่ที่บ้านโป่งลึก-บางกลอย ต.ห้วยแม่เพรียง อ.แก่งกระจาน ตามเดิมโดยไม่มีการคุมตัวแต่อย่างใด

ภาคประชาชนเคลื่อนไหว #Saveบางกลอย

ภายหลังมีปฏิบัติการในพื้นที่ตลอดทั้งวันที่ผ่านมา มีปฏิกิริยาทางสังคมที่เกิดขึ้นจนทำให้ #Saveบางกลอย ขึ้นเทรนทวิตเตอร์อันดับหนึ่ง ขณะเดียวกันหลายพื้นที่ก็ได้แสดงออกต่อเรื่องนี้ เพื่อเรียกร้องให้ภาครัฐปฏิบัติตามข้อตกลงที่ทำไว้ร่วมกับชาวบ้าน

 

เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา ภาคี Saveบางกลอย นัดรวมตัวกันบริเวณแยกปทุมวัน แสดงป้ายผ้าพร้อมข้อความ Saveบางกลอย และเนื้อหาที่พยายามสื่อสารถึงปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ ที่กระทำต่อชาวกะเหรี่ยงบางกลอยในวันนี้ อาจไม่สอดคล้องกับข้อตกลงที่ตัวแทนหน่วยงานรัฐ ให้ไว้กับชาวบ้านว่าจะยุติการคุกคามดำเนินคดีกับชาวบ้านที่กลับเข้าป่าไปที่บางกลอยบน-ใจแผ่นดิน

 

ตัวแทนภาคี Saveบางกลอย ยืนยันว่า สิ่งที่เกิดขึ้นไม่สอดคล้องกับหลักการด้านสิทธิมนุษยชน และความพยายามของภาครัฐที่จะผลักดันการขึ้นทะเบียนผืนป่าแก่งกระจานเป็นมรดกโลก อาจต้องถูกตั้งคำถามว่าการกระทำของเจ้าหน้าที่ในวันนี้ อาจกำลังนำไปสู่ความขัดแย้ง ที่ไม่สอดคล้องกับแนวทางมรดกโลก จึงเรียกร้องให้สังคมช่วยกันจับตาเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด

 

ส่วนกิจกรรมเดินทะลุฟ้าจาก นครราชสีมาถึงกรุงเทพฯ วันนี้ นอกจากเรียกร้องประเด็นหลัก อย่างการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ยังมีการแสดงออก เพื่อร่วมส่งความห่วงใยไปยังชาวกะเหรี่ยงบางกลอยด้วย

ล่าสุดกลุ่มประชาชนผู้รักความเป็นธรรมและภาคี #SAVEบางกลอย ออกแถลงการณ์ ประณามและเรียกร้องให้รัฐบาลสั่งการปลดรัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

เนื่องจากมองว่า ปฏิบัติการที่เกิดในวันนี้อยู่ภายใต้การบัญชาการของนายยุทธพล อังกินันทน์ ที่ปรึกษา รมว.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งต้องได้รับความเห็นชอบจากนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ไม่รับฟังปัญหาของชาวบางกลอย และเชื่อข้อมูลจากภาครัฐเพียงฝ่ายเดียว

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ปลัดทส.ยันไม่เคยขีดเส้น "บางกลอย" วอนถอยคนละก้าว

ลุ่มประชาชนผู้รักความเป็นธรรมฯ ออกแถลงการณ์กรณี “ป่าแก่งกระจาน”

“วราวุธ” วอนหยุดเผา "ป่าแก่งกระจาน" เตรียมชงข้อมูล เข้าครม.

 "วราวุธ" ส่ง "ยุทธพล" ดูแลสนธิกำลังขึ้นบางกลอย

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง