"ชาดา" พ้อนายกฯ ไม่ปลื้ม หั่นงบฯ สธ.ทั้งที่ต้องสู้โควิด

การเมือง
31 พ.ค. 64
16:31
345
Logo Thai PBS
"ชาดา" พ้อนายกฯ ไม่ปลื้ม หั่นงบฯ สธ.ทั้งที่ต้องสู้โควิด
นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ตั้งข้อสังเกตการทำงานของสภาพัฒน์และสำนักงบประมาณ ตัดงบ สธ.เกือบทุกรายการในช่วง COVID-19 พร้อมชวน "อนุทิน" ถ้าเขาไม่รักก็กลับบ้านเราเถอะ

วันนี้ (31 พ.ค.2564) เวลา 15.00 น. นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.ภูมิใจไทย อภิปราย ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 ว่า "งบประมาณที่สำนักงบประมาณ และ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ดำเนินการในปีนี้ ผมถือว่าไม่ให้เกียรติพี่น้องประชาชน"

นายชาดากล่าวว่า ในสถานการณ์ COVID-19 แต่สำนักงบประมาณ กลับตัดงบฯ ของกระทรวงสาธารณสุข ลงแทบทุกกรม และทุกส่วน ทั้งที่เป็นกระทรวงหลักในการดูแลประชาชน

หากระบุว่า ให้ไปใช้งบกลาง ถือว่าเป็นเรื่องลำบาก เป็นการจัดงบฯ โดยไม่นึกถึงคนที่ทำงาน ว่าจะเกิดปัญหาต่างๆ ซึ่ง พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท ในจำนวนนี้มีงบฯ สธ. 40,000 ล้านบาท ถือว่าน้อยและปัจจุบันเบิกจ่ายไปเพียง 20,000 ล้านบาท

สิ่งสำคัญ คือ เบี้ยเลี้ยงเสี่ยงภัยของแพทย์ จำนวน 6,000 กว่าล้านบาท ตั้งแต่การแพร่ระบาด COVID-19 ระลอกแรก จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้เบิกจ่ายให้กับบุคลากร

ขอให้ทั้ง 2 หน่วยงานดังกล่าว เข้าไปดูในโรงพยาบาลรัฐว่า ยังขาดแคลนสิ่งใดบ้าง เพราะตัดกระทั่งงบฯ การแพทย์ปฐมภูมิ ซึ่งเป็นส่วนที่ดูแลและให้บริการประชาชนโดยตรง

นายชาดา ยังกล่าวถึงข้อจำกัดในการให้บริการทางการแพทย์ในพื้นที่ต่างจังหวัด ซึ่งแตกต่างกับกรุงเทพฯ ยกตัวอย่างการฉีดวัคซีนป้องกัน COVID-19 ที่ประชาชนในพื้นที่ ต้องเดินทางไปรับบริการที่โรงพยาบาล แต่มีอุปสรรคการเดินทาง ไม่มีรถสาธารณะ รวมทั้งค่าใช้จ่ายในการฉีดวัคซีนที่ไม่ได้งบฯ จากส่วนกลาง

นอกจากนี้ งบประมาณในการดำเนินการจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม และการกักตัวในโรงแรม รีสอร์ต ต้องใช้งบฯ ฉุกเฉินของผู้ว่าราชการจังหวัด และงบฯ ท้องถิ่นทั้งหมด

สภาพัฒน์ฯ ไม่รู้บทบาทและหน้าที่ตัวเอง วันนี้มาเป็นบทบาทของผู้นำ มีการพิจารณางบฯ เป็นส่วนพิจารณาเสียเอง ซึ่งไม่ถูกต้อง

ทั้งนี้ นายชาดา ตั้งข้อสังเกตการทำหน้าที่ของสภาพัฒน์ฯ ที่ต้องเป็นนักวิชาการวิเคราะห์งบประมาณ ให้คำปรึกษาและแนะนำรัฐบาลเท่านั้น แต่กลับมีการพิจารณาผ่านงบฯ เอง

พร้อมยกตัวอย่างการทำงานของสำนักงบประมาณ ของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งวิเคราะห์งบประมาณหลายเล่ม โดยระบุว่า ทำหน้าที่ได้ดีกว่าสภาพัฒน์ ซึ่งวันนี้บทบาทหน้าที่เปลี่ยนไป ไม่นึกถึงประชาชน ไม่ถึงนึก อสม. และแพทย์ที่อยู่ต่างจังหวัดว่าจะทำงานอย่างไร

แม้แต่งบฯ ฉีดวัคซีน 18 ล้านบาทก็ยังถูกตัด รวมทั้งไม่ให้งบฯ ซื้อเครื่องเอกซเรย์ ห้องความดันลบ และอุปกรณ์ต่างๆ

สำนักงบฯ คิดว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไม่รักนายอนุทินเสียแล้ว จึงตัดงบฯ แบบนี้ ผมก็อยากจะบอกว่า หัวหน้าครับ ถ้าเขาไม่รักก็กลับบ้านเราเถอะครับ

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง