ขอมือถือไม่ใช้ให้น้อง หนุน "น้องต้องได้เรียน" ออนไลน์

สังคม
14 ก.ค. 64
14:38
1,823
Logo Thai PBS
ขอมือถือไม่ใช้ให้น้อง หนุน "น้องต้องได้เรียน" ออนไลน์
องค์การบริหารสโมสรนิสิตจุฬาฯ และคณะใกล้เที่ยงคืน ผุดแคมเปญ “น้องฉันต้องได้เรียน” ขอรับบริจาคสมาร์ตโฟนที่ไม่ได้ใช้แล้ว แต่สภาพดี ให้กับเด็ก ๆ ที่ไม่มีอุปกรณ์ ได้มีโอกาสเรียนออนไลน์ตามสิทธิขั้นพื้นฐานของเด็กทุกคน
เราคุยกับอาจารย์ที่ทำงานกับเด็กรอบๆ จุฬาฯ ช่วงนี้เด็ก ๆ ไม่ได้เรียนออนไลน์ เพราะไม่มีอุปกรณ์ เราจะช่วยเด็กๆ อย่างไรดี ให้พวกเขาไม่ต้องไม่หลุดออกจากการศึกษาอีก

ความห่วงใย ถูกถ่ายทอดจาก น.ส.นันท์นภัส เอี้ยวสกุล อุปนายกฝ่ายกิจการภายนอก องค์การบริหารสโมสรนิสิตจุฬาฯ (อบจ.) และนายรณกร โรจน์รัตนดำรงค์ ตัวแทนจากคณะใกล้เที่ยงคืน ที่เล่าผ่านระบบซูม ถึงแคมเปญ “น้องฉันต้องได้เรียน”

อุปกรณ์ในที่นี้คือ โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต และสัญญาณอินเทอร์เน็ต ที่หลายครอบครัวเข้าไม่ถึง เด็ก ๆ หลายคนจึงไม่ได้เรียนออนไลน์เหมือนเพื่อนที่มีความพร้อม

เด็กส่วนหนึ่งหลุดออกจากการเรียน ตั้งแต่เริ่มเรียนออนไลน์ เพราะไม่มีอุปกรณ์ เด็กอีกส่วนไม่ได้เรียนในช่วงหลัง เพราะไม่มีเงินเติมอินเทอร์เน็ต แม้จะเติมครั้งละ 20 บาท พ่อแม่ได้เงินค่าแรงวันละ 300 บาท แค่ค่าข้าวยังแทบจะไม่พอ

ปัญหาเหล่านี้เชื่อว่า น่าจะเกิดขึ้นกับเด็กทั่วประเทศ ไม่มีใครช่วยเหลือ ไม่มีใครช่วยแก้ปัญหา องค์การบริหารสโมสรนิสิตจุฬาฯ และคณะใกล้เที่ยงคืน จึงร่วมกันหาทางออกในเบื้องต้น

ด้วยการเปิดรับบริจาคสมาร์ตโฟน เพื่อให้เด็ก ๆ กลุ่มเปราะบางที่ครอบครัวมีรายได้น้อย ในพื้นที่ชุมชนรอบจุฬาฯ ซึ่งเป็นพื้นที่นำร่อง ได้กลับเข้าสู่ระบบการศึกษา ได้เรียนตามสิทธิ์ขั้นพื้นฐาน

น.ส.นันท์นภัส เอี้ยวสกุล กล่าวว่า พื้นที่นำร่องคือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาตอนปลาย และมัธยมศึกษาตอนต้นกว่า 100 คน ในเขตบางรัก 7 แห่ง และเขตปทุมวัน 6 แห่ง

เปิดรับบริจาควันที่ 12-30 ก.ค.2564 หลังจากนั้นจะทำระบบส่งต่อ ติดตามผล และขยายโครงการสู่โรงเรียนในเขตอื่นๆ ต่อไป

ด้าน นายรณกร โรจน์รัตนดำรงค์ สะท้อนปัญหาการเรียนของเด็กไทยว่า หลังจากเฝ้ามองกระทรวงศึกษาธิการ จัดการเรื่องการเรียนออนไลน์มาตั้งแต่ปีที่แล้วพบว่า

วิสัยทัศน์ของผู้บริหารยังมีปัญหา ซึ่งการมองว่าทุกครอบครัวมีโทรศัพท์มือถือ มีโทรทัศน์อยู่แล้ว ซึ่งไม่เป็นความจริง ครอบครัวหาเช้ากินค่ำ ได้เพียงค่าแรงรายวันละ 300 บาท ไม่สามารถซื้อสมาร์ตโฟนในราคาหลักพันได้

นอกจากนี้ยังพบว่า กระทรวงศึกษากำหนดนโยบาย โดยไม่ศึกษาหรือสำรวจความพร้อมของเด็กและครอบครัวอย่างละเอียด ซึ่งแสดงถึงความไม่จริงจังในการทำงาน

เราเห็นปัญหานี้เกิดขึ้น แต่ไม่เห็นการแก้ปัญหา ไม่เห็นการสนับสนุนของกระทรวงฯ เลย ซึ่งอุปกรณ์การเรียนในยุคนี้ ควรเป็นสวัสดิการที่เด็ก ๆ ต้องได้รับ

2 วัน หลังเปิดแคมเปญ "น้องฉันต้องได้เรียน" ขณะนี้มียอดบริจาคสมาร์ตโฟนแล้วประมาณ 40 เครื่อง หลังจากนี้ทีมงานจะช่วยกันตรวจสอบสภาพ และเตรียมเครื่องให้พร้อมใช้งาน ก่อนส่งต่อให้กับเด็ก ๆ ต่อไป

รายละเอียดการส่งมอบสมาร์ตโฟนเพื่อสนับสนุนการศึกษา อ่านเพิ่มที่ https://docs.google.com/forms/d/e/1FAIpQLScNiZnKSiJBN2yFCtbT-G1yCJkc2q5Xahlu4K9tLIFuo3OG2g/viewform 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง