กบร. สั่งเตรียมรับมือผู้โดยสารเพิ่ม ป้องกันปัญหาเที่ยวบินแบบยุโรป-สหรัฐฯ

เศรษฐกิจ
28 ก.ค. 65
11:42
233
Logo Thai PBS
กบร. สั่งเตรียมรับมือผู้โดยสารเพิ่ม ป้องกันปัญหาเที่ยวบินแบบยุโรป-สหรัฐฯ
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ประธาน กบร. สั่งเตรียมพร้อมรับมือผู้โดยสารเดินทางเข้าออกไทยเพิ่ม ป้องกันปัญหาเที่ยวบินป่วนแบบยุโรป-สหรัฐฯ พร้อมมีมติขยายมาตรการบรรเทาผลกระทบสายการบินต่อไปอีกในไตรมาส 3 คาด ปี 66 ผู้โดยสารต่างชาติ ขยับเป็น 19 ล้านคน

วันนี้ (28 ก.ค.2565) นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ในฐานะประธานกรรมการการบินพลเรือน เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) หรือ CAAT ประสานผู้ประกอบการทุกราย เตรียมความพร้อมเต็มที่ เพื่อรองรับปริมาณเที่ยวบิน และผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

หลังพบระบบการขนส่งทางอากาศ ในยุโรปและสหรัฐฯ โกลาหลอย่างหนักจากการเตรียมรับมือ ความต้องการเดินทาง ที่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว หลังโควิด-19 คลี่คลายลง

นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า กรณีสนามบินทั่วยุโรปรวมทั้งในสหรัฐฯ เกิดความโกลาหลอย่างหนักในช่วงนี้ มีผู้โดยสารและสัมภาระตกค้าง จากการยกเลิกเที่ยวบิน และมีเที่ยวบินล่าช้าจํานวนมาก ตั้งแต่เดือน เม.ย.2565 เป็นต้นมา

โดยในยุโรปมีการยกเลิกเที่ยวบินไปแล้วเกือบ 100,000 เที่ยวบิน ส่วนในสหรัฐฯ ก็มีการยกเลิกเที่ยวบินไม่น้อยกว่า 20,000 เที่ยวบิน ในช่วง 2 – 3 เดือนที่ผ่านมา

ทั้งนี้ นับตั้งแต่สถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายลง มีปริมาณนักท่องเที่ยวและผู้โดยสารเพิ่มขึ้นมาก ในขณะที่ทั้งยุโรปและอเมริกา ประสบปัญหาเนื่องจากขาดแคลนบุคลากรทางการบิน ส่วนหนึ่งเกิดจากการปรับลดพนักงานไปเป็นจำนวนมาก รวมทั้งผลพวงจากการระบาดของโควิด-19 ที่ทําให้เจ้าหน้าที่ต้องกักตัวจนขาดคนทํางาน

นอกจากนั้น ในหลายประเทศยังมีการนัดหยุดงานของบุคลากรในอุตสาหกรรมการบิน ทําให้มีคนทํางานไม่เพียงพอ

ไฟเขียวเพิ่มอีก 1 ไตรมาส บรรเทาผลกระทบสายการบิน

นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ได้สั่งการให้ กพท.เร่งประสานกับทุกภาคส่วนทั้งสายการบิน สนามบิน บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด รวมทั้งผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อม ไม่ให้เกิดปัญหาดังกล่าวขึ้น ในระบบการบินของประเทศไทย โดยเฉพาะในช่วงที่จะมีเที่ยวบินและผู้โดยสารเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่เดือนนี้

นอกจากนั้น กบร.ยังมีมติที่สำคัญเพื่อกระตุ้นและส่งเสริมการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการบินของประเทศ โดยการขยายมาตรการบรรเทาผลกระทบสายการบินจากโควิด-19 ในไตรมาสที่ 3/2565

กบร.ได้ประเมินสถานการณ์โควิด-19 ที่ยังระบาดอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ทำให้จำนวนเที่ยวบิน รวมถึงจำนวนผู้โดยสาร ทั้งในและระหว่างประเทศได้รับผลกระทบ

อย่างไรก็ตาม จากนโยบายการผ่อนคลายเงื่อนไขในการเดินทางเข้าประเทศในไตรมาสที่ 2/2565 ทำให้จำนวนผู้โดยสารทั้งในประเทศและระหว่างประเทศเริ่มฟื้นตัว แต่ผู้ประกอบการสายการบิน ยังคงได้รับผลกระทบจากปัจจัยอื่น คือ อัตราเงินเฟ้อทั่วโลกที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น และระดับราคาน้ำมันเครื่องบินที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการดำเนินงานของสายการบิน

มาตราการช่วยเหลือสายการบิน

ดังนั้นเพื่อสนับสนุนการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้กับสายการบิน ให้สามารถฟื้นตัวจากผลกระทบจากสถานการณ์ การแพร่ระบาดของโควิด-19 และสถานการณ์แวดล้อมอื่นๆ กบร. จึงมีมติให้ขยายมาตรการช่วยเหลือ สายการบินออกไปอีกในไตรมาสที่ 3/2565 ดังนี้

มาตรการด้านการลดค่าใช้จ่ายของสายการบินบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) ขยายระยะเวลาปรับลดค่าบริการสนามบิน ลงอัตราร้อยละ 50 ทั้งเที่ยวบินภายในประเทศและเที่ยวบินระหว่างประเทศ และขยายเวลาการยกเว้นการจัดเก็บค่าบริการที่เก็บอากาศยาน ให้แก่สายการบินที่หยุดให้บริการชั่วคราว

และ มาตรการทางการเงิน CAAT ขยายระยะเวลาชำระหนี้ ค่าธรรมเนียมการเข้าหรือออกนอกประเทศ จาก 15 วัน เป็น 90 วัน และยกเว้นเงินเพิ่ม (ค่าปรับ) ให้กับสายการบินที่นำส่งค่าธรรมเนียมการเข้าหรือออกประเทศล่าช้า

ขณะที่ กรมท่าอากาศยาน (ทย.) ขยายระยะเวลาการปรับลดอัตราค่าเช่าสำหรับทุกกิจกรรมในอัตราค่าเช่าไม่ต่ำกว่าที่กรมธนารักษ์กำหนด ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. - 31 ธ.ค.2565

ปี 66 คาด นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ขยับเป็น 19 ล้านคน

นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า สำหรับแนวโน้มของจำนวนผู้โดยสารต่างชาติที่จะเดินทางเข้ามายังประเทศไทย สถานการณ์การอ่อนค่าของเงินบาทจะเป็นปัจจัยส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ เดินทางมาท่องเที่ยวในไทยมากขึ้น เนื่องจากนักท่องเที่ยว สามารถแลกเปลี่ยนเงินดอลลาร์สหรัฐ ให้เป็นเงินบาทไทย ในจำนวนที่มากขึ้น

ในขณะเดียวกัน สถิติจากกองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และประมาณการโดยธนาคารแห่งประเทศไทย ระบุว่า ช่วงตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-20 พ.ค.2565 ที่ผ่านมา มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่เดินทางเข้ามายังประเทศไทยทั้งหมด 1.08 ล้านคน

ขณะที่ ธนาคารแห่งประเทศไทย คาดการณ์ว่า จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 2565 เพิ่มขึ้นเป็น 6 ล้านคน โดยในไตรมาสที่ 2 และ ไตรมาสที่ 3 จะมีการเพิ่มขึ้นในอัตราที่ชะลอตัวลง เนื่องจากเป็นฤดูกาลโลว์ซีซั่นของการท่องเที่ยว

แต่จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในไตรมาสที่ 4 เนื่องจากเป็นไฮซีซั่น และในปี 2566 คาดการณ์ว่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเพิ่มขึ้นเป็น 19 ล้านคน

สัญญาณดี เดินทางระหว่างประเทศ

นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ส่วนกลุ่มผู้โดยสารชาวจีน ปัจจุบันรัฐบาลจีนเริ่มผ่อนคลายมาตรการการเดินทางระหว่างประเทศกับไทย แต่ยังคงอนุญาตให้เฉพาะการเดินทางที่จำเป็นในกลุ่มนักธุรกิจ นักเรียนและนักศึกษา โดยสำนักงานการบินพลเรือนแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (CAAC) อนุญาตให้สายการบินของไทยและจีน ทำการบินแบบประจำรับขนส่งผู้โดยสารระหว่างไทยกับจีนฝ่ายละ 3 เที่ยวต่อสัปดาห์ ช่วงเดือน ก.ค.-ต.ค.2565

จากจำนวนเที่ยวบินจะยังไม่ส่งผลมากต่อการเพิ่มปริมาณผู้โดยสารที่เดินทางเข้า-ออกประเทศไทย แต่ถือเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับการเดินทางระหว่างประเทศกับกลุ่มตลาดใหญ่อย่างจีน และเป็นจุดเริ่มต้นให้สายการบินของไทย ได้เตรียมความพร้อมตามมาตรการสาธารณสุขของจีนด้วย หากสายการบินของไทยดำเนินการไปได้ด้วยดี ทางการจีนอาจเพิ่มจำนวนเที่ยวบินให้กับประเทศไทยต่อไป

ทบทวนแผนแม่บทห้วงอากาศและการเดินอากาศแห่งชาติ

นอกจากนี้ กบร.ได้มีมติเห็นชอบการทบทวนแผนแม่บทห้วงอากาศและการเดินอากาศแห่งชาติ ซึ่งเป็นแผนหลักในการพัฒนาระบบห้วงอากาศและโครงสร้างพื้นฐานระบบการเดินอากาศของประเทศไทย ให้มีความสอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน โดยปรับให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ทั้งในแง่ของกรอบเวลาและแผนการพัฒนาด้านอื่น ๆ ของไทย

ออกใบอนุญาตให้ผู้ประกอบกิจการการบินพลเรือน

กบร. ยังได้มีมติเห็นชอบให้ออกใบอนุญาตประกอบกิจการการบินพลเรือนให้ผู้ประกอบการที่ยื่นคำขอจำนวน 2 ราย ได้แก่ บริษัท เอเซีย เอวิเอชั่น แอนด์ เทคโนโลยี จํากัด และบริษัท แอร์ อินเตอร์ ทรานสปอร์ต จำกัด รวมทั้งเห็นชอบให้ต่อใบอนุญาตฯ ให้ผู้ประกอบการจำนวน 4 ราย

ประกอบด้วย บริษัทเอเชี่ยน แอโรสเปซ เซอร์วิส จํากัด บริษัทแอ๊ก โกลบอล จํากัด บริษัทวิทยุการบินแห่งประเทศไทย จํากัด และบริษัทเอ็มเจ็ท จํากัด ตามที่คณะกรรมการกลั่นกรองการออกใบอนุญาตประกอบกิจการการบินพลเรือนได้ตรวจสอบคุณสมบัติและพิจารณาให้ความเห็นชอบในเบื้องต้นมาแล้ว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง