"หมอธีระ" เปิดงานวิจัยโควิดรีบาวด์ Long COVID ฉบับล่าสุด

สังคม
3 ส.ค. 65
12:47
1,555
Logo Thai PBS
"หมอธีระ" เปิดงานวิจัยโควิดรีบาวด์ Long COVID ฉบับล่าสุด
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
"หมอธีระ" เปิดงานวิจัยโควิดรีบาวด์ และอาการ Long COVID ฉบับล่าสุดที่เพิ่งตีพิมพ์ของนักวิจัยประเทศสหรัฐฯ ระบุอาการผิดปกติจะเกิดได้กับทุกระบบของร่างกาย ทั้งทางเดินหายใจ ระบบประสาท อารมณ์ จิตเวช รวมทั้งเสี่ยงเกิดโรคเรื้อรัง และบ่งชี้ผู้หญิงเสี่ยงกว่าผู้ชาย

วันนี้ (3 ส.ค.2565) ศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊ก  Thira Woratanarat  ระบุถึงสถานการณ์โควิด-19 และอาการ Long COVID ว่า จากตัวเลขเมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 719,114 คน ตายเพิ่ม 1,697 คน รวมติด 583,673,113 คน เสียชีวิตรวม 6,423,641 คน  5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุดคือ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อิตาลี ฝรั่งเศส และสหรัฐอเมริกา

เมื่อวานนี้ (2 ส.ค.) จำนวนติดเชื้อใหม่ มีประเทศจากยุโรป และเอเชียครอง 7 ใน 10 อันดับแรก และ 15 ใน 20 อันดับแรกของโลก จำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลก ตอนนี้มาจากทวีปเอเชีย และยุโรป รวมกันคิดเป็นร้อยละ 79.23 ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็นร้อยละ 52.38

สถานการณ์ระบาดของไทย จากข้อมูล Worldometer เช้านี้พบว่าจำนวนเสียชีวิตเมื่อวานนี้ สูงเป็นอันดับ 12 ของโลก และอันดับ 4 ของเอเชีย แม้กระทรวงสาธารณสุขไทย จะปรับระบบรายงานตั้งแต่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา จนทำให้จำนวนที่รายงานนั้นลดลงไปมากก็ตาม

อ่านข่าวเพิ่ม 9 พ.ค.นี้ กทม.เปิดคลินิกรักษาผู้ป่วย "ลองโควิด" ใน รพ. 9 แห่ง

การเป็นกลับซ้ำ (rebound) ในคนติดเชื้อที่ไม่ได้รับยาต้านไวรัส

อาจารย์ธีระ ระบุว่า ข้อมูลของ Deo R และคณะ จาก Harvard Medical School ประเทศสหรัฐฯ  ทำการศึกษาเรื่องการเป็นกลับซ้ำ (rebound) ในกลุ่มคนที่ติดเชื้อโรคโควิด-19 ที่ไม่ได้รับยาต้านไวรัส สาระสำคัญคือ พบว่าผู้ที่ติดเชื้อจะมีอัตราการมีไวรัสกลับสูงขึ้น (viral rebound) หลังจาก 5 วันราว 12% หรือประมาณ 1 ใน 8 คน

โดยปริมาณไวรัสที่กลับสูงขึ้นนั้น จะอยู่ในระดับสูงเกิน 100,000 ตัวต่อซีซี ราว 5% ในขณะที่มีอัตราการเกิดอาการซ้ำขึ้นมา หลังจากอาการช่วงแรกดีขึ้น ได้ราว 27% หรือสูงถึง 1 ใน 4 

พบคนที่มีอาการกลับซ้ำนั้น เกิดขึ้นหลังจากอาการช่วงแรกหายไป มีได้ราว 10% อย่างไรก็ตาม การเกิดไวรัสกลับมาสูงขึ้นในระดับสูง ร่วมกับมีอาการกลับซ้ำขึ้นมาพร้อมกันนั้น เกิดได้น้อยราว 2%

ผลการวิจัยนี้ ชี้ให้เราเห็นว่า คนที่ติดเชื้อแม้จะไม่ได้รับยาต้านไวรัส ก็มีโอกาสเกิด rebound ได้เช่นเดียวกันกับที่พบจากคนที่ได้ยาต้านไวรัส

ดังนั้น หากติดเชื้อไม่ว่าจะได้หรือไม่ได้ยาต้านไวรัส การแยกกักตัวในระยะเวลาที่ถูกต้อง และนานเพียงพอ 14 วัน สำหรับโอมิครอนหรืออย่างน้อย 10 วัน โดยไม่มีอาการ และตรวจ ATK ได้ผลลบจึงมีความสำคัญที่จะทำให้แน่ใจเรื่องความปลอดภัย ลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อต่อเหนืออื่นใดการใส่หน้ากากอย่างถูกต้องสม่ำเสมอ เวลาดำเนินชีวิตประจำวันนอกบ้าน เป็นหัวใจสำคัญ ที่จะป้องกันตัวในสถาน การณ์ระบาด ที่ยังเป็นไปอย่างต่อเนื่อง เพราะในชีวิตจริง มีโอกาสสูงที่จะพบปะกับคนที่ติดเชื้อทั้งโดยรู้ตัวและไม่รู้ตัวได้

เปิดงานวิจัย Long COVID ล่าสุด

อาจารย์ธีระ ยังระบุอีกว่า จากผลการวิจัยทั่วโลกคนที่ติดเชื้อโรคโควิด-19 จะเกิดปัญหา Long COVID ตามมาได้ โดยมีโอกาสได้ตั้งแต่ 5-30% โดย Long COVID มาในรูปแบบที่เป็นอาการผิดปกติคงค้างมาตั้งแต่ช่วงแรก และเรื้อรังต่อเนื่อง หรือจะมาในรูปแบบอาการผิดปกติที่เกิดขึ้นใหม่ ภายหลังจากที่รักษาการติดเชื้อในช่วงแรกไปแล้วเกิน 4 สัปดาห์

อาการผิดปกติที่เกิดขึ้นนั้น เกิดได้แทบทุกระบบของร่างกาย โดยความรู้ปัจจุบันจำแนกกลุ่มอาการที่พบบ่อยได้แก่ ระบบหัวใจและทางเดินหายใจ ระบบประสาท อารมณ์ จิตเวช

กลุ่มอาการที่เกี่ยวข้องกับหลายอวัยวะ และระบบทางเดินอาหาร อย่างไรก็ตาม ยังมีความเสี่ยงเกิดปัญหาในระบบอื่น และกลายเป็นโรคเรื้อรังด้วย เช่น เบาหวาน ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ Long COVID เกิดขึ้นได้ ไม่ว่าจะเคยติดเชื้อแบบไม่มีอาการ มีอาการน้อยหรือมีอาการรุนแรง และเกิดได้ทุกเพศทุกวัย

งานวิจัยต่างๆ พบว่าผู้หญิงเสี่ยงกว่าชาย ผู้ใหญ่เสี่ยงกว่าเด็ก และคนที่เคยติดเชื้อแล้วมีอาการรุนแรงเสี่ยงกว่าคนมีอาการน้อยหรือไม่มีอาการ

ดังนั้น หลังจากที่รักษาการติดเชื้อในระยะแรกเรียบร้อยแล้ว ผู้ที่เคยติดเชื้อมาก่อนจึงควรหมั่นสังเกต ตรวจตราสุขภาพของตัวเองเป็นระยะ หากมีอาการผิดปกติใดๆ เกิดขึ้น ก็ควรไปปรึกษาแพทย์เพื่อทำการตรวจ วินิจฉัย และให้การดูแลรักษา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง 3-6 เดือนแรกหลังจากติดเชื้อ การไปตรวจสุขภาพที่สถานพยาบาลก็เป็นแนวทางปฏิบัติที่สมควรทำ

ข้อมูลอ้างอิง 

1. Deo R et al. Viral and Symptom Rebound in Untreated COVID-19 Infection. medRxiv. 2 August 2022

2. Sidik SM. Heart disease after COVID: what the data say. Nature. 2 August 2022.

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

เช็กเบื้องต้น 200 อาการ "ลองโควิด" 

เพิ่ม 2 ฟังก์ชันหมอพร้อม ประเมินภาวะ "ลองโควิด-สุขภาพจิต"

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง