พื้นที่ลุ่มน้ำภาคกลางเริ่มวิกฤต หลังน้ำเหนือไหลสมทบต่อเนื่อง 
บริเวณลุ่มแม่น้ำน่านมีฝนตกลงมาอย่างหนักในลุ่มน้ำสาขาตลอดสัปดาห์ส่งผลให้ยังเกิดน้ำท่วมขังที่จังหวัดอุตรดิตถ์ พิษณุโลก พิจิตร และนครสวรรค์ กว่า 500,000 ไร่ โดยน้ำจะไหลลงไปรวมกันที่จังหวัดพิจิตรและพิษณุโลกต่อไป ขณะที่ในลำน้ำยมขณะนี้ยังคงมีน้ำท่วมขังในเขตจังหวัดสุโขทัย พิษณุโลก พิจิตร นครสวรรค์
ที่จังหวัดพิษณุโลกเจ้าหน้าที่ยังคงนำถุงยังชีพ และ ยารักษาโรคไปแจกจ่ายให้กับชาวบ้านในอำเภอบางระกำ ซึ่งถูกน้ำท่วมมานานทำให้บางคนเริ่มป่วยโดยเฉพาะโรคน้ำกัดเท้าและขาดแคลนอาหาร ส่วนจังหวัดพิจิตร เจ้าหน้าที่พบศพเด็ก 2 คน ที่ถูกน้ำพัดหายไปตั้งแต่เมื่อคืนบริเวณบ้านสะแก ตำบลทุ่งใหญ่ อำเภอโพธิ์ประทับช้าง ทำให้น้ำท่วมในปีนี้จังหวัดพิจิตรมีผู้จมน้ำเสียชีวิตแล้ว 19 คน ส่วนสถานการณ์ลุ่มน้ำวัง ยังคงมีน้ำท่วมขังพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำวัง บริเวณอำเภอบ้านตากและอำเภอเมือง จังหวัดตาก ระดับน้ำลดลงอย่างช้า ๆ เนื่องจากน้ำในแม่น้ำปิง บริเวณที่ไหลลงมาบรรจบยังมีระดับสูง
ขณะที่ในลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาเมื่อวานนี้มีฝนตกหนักที่จังหวัดอุทัยธานีทำให้แม่น้ำสะแกกรังไหลมาสมทบกับแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มขึ้นที่เหนือเขื่อนเจ้าพระยา กรมชลประทานจึงพยายามควบคุมน้ำที่ไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา โดยต้องลดระดับน้ำที่จะไหลลงมาที่เขื่อนเจ้าพระยาให้น้อยลง พร้อมปรับลดการระบายน้ำจากเขื่อนกิ่วลม เพิ่มการรับน้ำเข้าคลองชัยนาท-ป่าสัก เพื่อเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรในพื้นที่แก้มลิงลุ่มต่ำเก็บเกี่ยวข้าวได้ทันภายในวันที่ 10 ก.ย.นี้ แต่หลังจากนั้นจะต้องระบายน้ำมากขึ้น เพื่อบรรเทาสถานการณ์น้ำท่วมในภาคเหนือตอนล่าง ขณะนี้จังหวัดอ่างทองยังมีน้ำท่วมสูงเป็นบริเวณกว้างแล้ว โดยระดับน้ำเกินจุดวิกฤตกว่า 80 เซนติเมตรแล้ว
ขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานีประกาศเตือนให้เกษตรกรเร่งเก็บเกี่ยวผลผลิต โดยมี 2 ตำบลในเขตอำเภอเมือง ที่ถูกน้ำท่วมแล้ว ส่วนที่อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี ต้องทำสะพานยาวกว่า 1 กิโลเมตรให้ชาวบ้านมาติดต่อราชการ ขณะที่ชาวบ้านและหน่วยงานรัฐเร่งสร้างพนังกั้นน้ำตลอดริมแม่น้ำเจ้าพระยา
ส่วนอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ ( 6กงย.) จะขออนุมัติงบประมาณ 2,000 ล้านบาทต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อดำเนินโครงการพัฒนาแก้ปัญหาอุทกภัยลุ่มน้ำยม-น่าน 39 โครงการ ซึ่งจะสร้างอ่างเก็บน้ำ 2 แห่ง คือ อ่างแม่รำพัน และอ่างห้วยแสลงหลวง ที่ช่วยเก็บน้ำได้ 10 ล้านลูกบาศก์เมตร และ ฟื้นฟูขุดลอกแหล่งน้ำธรรมชาติที่ตื้นเขินให้เป็นแก้มลิง และ สร้างระบบเตือนภัยล่วงหน้าในพื้นที่เสี่ยงภัย โดยยังไม่มีการกล่าวถึงการสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น
ส่วนกรมชลประทานจะของบประมาณเร่งด่วน 10,000 ล้านบาทที่จะช่วยลดปัญหาในปี 2555 ได้ ทั้ง 2 กรมจะร่วมกันเสนอแผนแม่บทการบริหารจัดการ 25 ลุ่มน้ำทั่วประเทศจำนวนเงิน 1,000,000 ล้านบาทด้วย