ผู้ว่าฯ 8 จ.ภาคตะวันออก หารือแก้ปัญหาช้างป่ารุกที่ทำกิน

Logo Thai PBS
ผู้ว่าฯ 8 จ.ภาคตะวันออก หารือแก้ปัญหาช้างป่ารุกที่ทำกิน
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ปัญหาช้างป่าออกนอกเขตป่าอนุรักษ์ สร้างผลกระทบให้กับประชาชน เป็นปัญหาซ้ำซากที่ภาครัฐยังไม่สามารถแก้ไขได้ ซึ่งวันนี้มีการประชุมร่วมกันทุกหน่วยงานรวม 8 จังหวัด ที่เกิดผลกระทบจากช้างป่า เปิดรับฟังข้อเสนอแนะจากภาคประชาชนเพื่อแก้ไขปัญหา

ชาวบ้าน ต.ยุบใน อ.วังจันทร์ จ.ระยอง กล่าวว่า บ้านของตนเอง ซึ่งตั้งอยู่ในตำบลป่ายุบใน อ.วังจันทร์ จ.ระยอง ถูกช้างป่าบุกพังกำแพงมา 2 เดือนก่อน และขณะนี้ยังไม่ได้ซ่อมแซม

 

เจ้าของบ้าน กล่าวเพิ่มเติมว่า ช้างป่าใช้เส้นทางหลังบ้านที่เป็นไร่มันสำปะหลัง ออกจากป่ามาหากินในหมู่บ้านเมื่อ 5 ปีก่อน ปัจจุบันเป็นเส้นทางหลัก ทำให้ครอบครัวต้องเข้าบ้านตั้งแต่ช่วงเย็น เพื่อป้องกันอันตรายจากช้างป่า

นายเผด็จ ลายทอง ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ระบุว่า ปัจจุบันช้างป่าอาศัยอยู่ตามธรรมชาติ ประมาณ 4,000 ตัว และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 8.2 ต่อปี

 ปัญหาหลักคือความฉลาดของช้างป่าแม้ว่าจะทำแนวป้องกันหลายรูปแบบ ตั้งแต่รั้วกันช้าง และคูกั้น ช้างป่าก็สามารถเดินอ้อมหรือทำลายแนวได้ทุกครั้ง

กรมอุทยานฯ ได้หารือกับกรรมาธิการแก้ไขปัญหาช้างป่า รัฐสภามาต่อเนื่อง แต่ยอมรับว่าไม่ง่าย และมีปัญหาเรื่องการออกแบบโครงสร้างวิศวกรรมในการสร้างแนวป้องกันช้างป่า ถูกตั้งคำถามตลอดตั้งแต่เรื่องงบประมาณ และความสอดคล้องกับระบบนิเวศ

ปัญหาช้างป่ารุกพื้นที่เกษตรซึ่งเป็นที่ดินทำกินของชาวบ้านได้ขยายวงกว้างโดยเฉพาะพื้นที่ภาคตะวันออก ทำให้ในวันนี้จะมีประชุมหารือกันของผู้ว่าราชการ 8 จังหวัดภาคตะวันออก ถึงแนวทางการแก้ปัญหาเกี่ยวกับช้างป่าออกนอกแนวเขตป่าอนุรักษ์ กัดกินพื้นที่เพาะปลูก และพังบ้านเรือนประชาชน

 น.ส.ศยามล ไกยูรวงศ์ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ระบุว่า วันนี้ต้องสรุปทิศทางของภาครัฐให้ได้ว่าจะกำหนดขอบเขตพื้นที่อาศัยของช้างป่าอย่างไร และการเยียวยาประชาชน เพราะพบความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินอย่างต่อเนื่อง แต่จะรับฟังอุปสรรคของหน่วยงานรัฐในการจัดการ เพื่อสรุปรายงานส่งรัฐบาล 

แท็กที่เกี่ยวข้อง:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง