USAR Thailand ปิดภารกิจในเมืองฮาทาย มุ่งหน้าช่วยเหลือต่อไป

ต่างประเทศ
14 ก.พ. 66
12:11
274
Logo Thai PBS
USAR Thailand ปิดภารกิจในเมืองฮาทาย มุ่งหน้าช่วยเหลือต่อไป
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
เจ้าหน้าที่ไทยชุดแรก อยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจที่ตุรกี หลังออกเดินทางไปเมื่อ 5 วันก่อน ซึ่งตามภารกิจ จะปฏิบัติงาน 10 วัน พวกเขาอยู่ระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ด้านมนุษยธรรม ท่ามกลางอากาศหนาวเย็น และความเสี่ยงทุกวินาที วันนี้มีแผนถอนกำลังออกจากเมืองฮาทาย

ทีม USAR Thailand บันทึกคลิป ในวันที่เริ่มปฏิบัติการ 13 ก.พ.ที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่าทหารเข้าประจำการในพื้นที่ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ทีมค้นหาและกู้ภัยนานาชาติ

ความเสียหาย ฝุ่น คละคลุ้งไปทั่วทั้งเมือง และดูไม่ออกเลยว่า นี่คือ เมืองที่เคยมีผู้คนใช้ชีวิตกันอย่างไร

ซาฮารา โกลด์เดน รีทรีฟเวอร์ วัย 6 ปี กำลังช่วยค้นหาลูกๆ ที่คุณพ่อชาวตุรกีท่านหนึ่ง พยายามบอกกับชุดปฏิบัติการว่า ลูก 3 คนติดอยู่ใต้ซากอาคารแห่งนี้

ซาฮารา และ เจ้าหน้าที่ USAR Thailand

ซาฮารา และ เจ้าหน้าที่ USAR Thailand

ซาฮารา และ เจ้าหน้าที่ USAR Thailand

ซาฮารา มีทักษะด้านการค้นหาและกู้ภัยตามมาตรฐานองค์การสุนัขโลก เคยผ่านงานกับมูลนิธิกระจกเงา ฝึกร่วมทางทหาร เช่น คอบรา โกลด์ สามารถแจ้งได้ว่า ถ้าพบเป้าหมาย ยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ แต่สำหรับครอบครัวนี้ ยังไม่พบลูกๆ ตามที่คุณพ่อแจ้งข้อมูล

ส่วน เซียรา ที่ผ่านการฝึกและมีคุณสมบัติความอดทนสูง ไม่ต่างจากซาฮารา ก็เร่งค้นหาตามภารกิจ และช่วยให้พบผู้เสียชีวิตเพิ่มได้ 2 คน ในช่วงเช้า

เซียรา และ เจ้าหน้าที่ USAR Thailand

เซียรา และ เจ้าหน้าที่ USAR Thailand

เซียรา และ เจ้าหน้าที่ USAR Thailand

ทหารลาดตระเวน ได้ขอใช้ทีม ใช้เครื่องโซนาร์ค้นหาผู้รอดชีวิต และตะโกนบอกให้ตอบกลับ หากยังมีชีวิตอยู่ โดยในจุดนี้ K9 ทั้ง 2 นาย สวมอุปกรณ์รักษาความปลอดภัย เนื่องจากในพื้นที่อาจมีของมีคมขณะปฏิบัติภารกิจ และพบผู้เสียชีวิต 4 คน ช่วยให้กู้ภัยท้องถิ่นนำออกมาจากซากอาคารได้

ในช่วงบ่ายของวันที่ 13 ก.พ. ทีมได้รับการร้องขอจากญาติผู้สูญหายที่เป็นคนไทย ในจุดเดียวกันกับที่มีคนไทยผู้เสียชีวิต ให้ช่วยติดตามช่วยเหลือ ซึ่งอยู่ห่างจากฮาทายไปราว 1.30 ชั่วโมง แต่อาคารแห่งนั้นกลับยุติการค้นหาไปแล้ว และแม้จะไปที่สุสานตามคำแนะนำของตำรวจ ก็ไม่พบบุคคลที่กำลังตามหา

สำหรับภารกิจที่จังหวัดฮาทายของ USAR Thailand จบลงแล้ว หลังจากนี้ทีมท้องถิ่นจะดำเนินการต่อไป ไทยมีแผนถอนทีมออกจากเมืองในวันนี้ (14 ก.พ.2566)

ทางด้าน เลอพงศ์ สวนสังข์ หัวหน้าทีม USAR Thailand กล่าวถึงภารกิจกู้ภัยในตุรกีเพิ่มเติมว่า ตั้งแต่ที่ USAR Thailand มาถึงตุรกี ทีมค้นหาและกู้ภัย ค้นหาเจอผู้เสียชีวิตทั้งหมด 10 กว่าศพ ทั้งที่ได้รับการประสานงานจากทาง UN หรือจากญาติที่ยังมีความหวังประสานขอความช่วยเหลือ ซึ่งทางทีมก็ทำงานอย่างเต็มที่

ยังมีความหวังทุกนาทีและยินดีให้ความช่วยเหลือเต็มที่
แต่บางครั้งอาจไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะโครงสร้างอาคารไม่แข็งแรง

ในทีมจะมีล่ามชาวตุรกีเป็นผู้สื่อสารกับญาติผู้สูญหาย เมื่อผู้รอชีวิตเห็นว่าเป็นทีมจากต่างประเทศ ก็จะมีความหวังว่าน่าจะช่วยเหลือญาติพี่น้องของเขาได้

บางครั้งทีมตุรกีทำไปแล้ว แต่เมื่อเห็นทีมไทยเข้ามา ก็เข้ามาติดต่ออีก
ทุกคนมีความหวัง ตราบใดที่ยังไม่เห็นร่างของญาติที่สูญหาย

แต่ก็เป็นที่น่าหดหู่ใจเพราะทั้งเมือง ถล่มหมด ญาติก็รอความหวัง แต่เมื่อจำเป็นต้องแจ้งว่าคนที่เขารอนั้นเสียชีวิตจริงๆ พวกเขาก็เข้าใจกัน 

ส่วนการการเยียวยาทั้งผู้ประสบภัยและสมาชิกในทีม หัวหน้าทีม USAR Thailand แจ้งว่า ในทีมมีหมอประจำทีมเดินทางมาด้วย จะคอยดูแลกันเองในทีม พูดคุยกัยวันละ 2 ครั้งอย่างต่ำเพื่อลดความเครียดจากการปฏิบัติหน้าที่ นอกจากนั้นทีมหมอที่มาก็จะช่วยปฐมพยาบาลผู้ประสบภัย บางเคสเข้ามาหาเพื่อขอให้รักษาก็มี ช่วยเต็มที่ตามหลักมนุษยธรรม

เลอพงศ์ สวนสังข์ หัวหน้าทีม USAR Thailand

เลอพงศ์ สวนสังข์ หัวหน้าทีม USAR Thailand

เลอพงศ์ สวนสังข์ หัวหน้าทีม USAR Thailand

การเดินทางมาตุรกีครั้งนี้ ถือว่าเป็นการปฏิบัติการแบบครบทีมเป็นครั้งแรก มีการวางแผนการทำงานอย่างรวดเร็วและชัดเจน เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยให้มากที่สุด เมื่อเทียบความรุนแรงของเหตุการณ์นี้ ตามแผน ปพ. เทียบเป็นระดับ 4 ถือว่าเป็นเคสที่ใหญ่มาก ได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง สภาพความเสียหาย บ้านเรือนเสียหายเป็นหมื่นหลังโดยเฉพาะในเมืองฮาทาย เรียกว่าอาคารเสียหาย 100 % คลานแคลนหลายเรื่อง เช่น เครื่องนุ่งห่ม ที่พักอาศัย แต่ทางรัฐบาลตุรกี ก็ให้ความช่วยเหลือมาก

อ่านข่าวเพิ่ม : 

ปาฏิหาริย์ กู้ภัยช่วยเด็กติดซากตึกตุรกี 182 ชั่วโมง

ใจฟู! K9 เซียร่า-ซาฮาร่า ปลอบใจเด็กน้อยตุรกี

แท็กที่เกี่ยวข้อง:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง