สภาพอากาศวันนี้ จับตา "โมคา"จ่อขึ้นฝั่งเมียนมาส่งผลไทยฝนตกหนัก 13-14 พ.ค.

ภัยพิบัติ
13 พ.ค. 66
07:35
1,229
Logo Thai PBS
สภาพอากาศวันนี้ จับตา "โมคา"จ่อขึ้นฝั่งเมียนมาส่งผลไทยฝนตกหนัก 13-14 พ.ค.
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานทั่วทุกภาคของไทยฝนตกหนัก 60-70% ของพื้นที่ ส่วนพายุไซโคลน "โมคา" ขึ้นฝั่งเมียนมา 14-15 พ.ค.นี้ ส่งผลลมตะวันตกเฉียงใต้แรง จะมีฝนตกต่อเนื่องและอันดามันคลืนลมแรงตั้งแต่ 13 พ.ค.

ลักษณะอากาศทั่วไป

วันนี้ (13 พ.ค.2566) กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานว่าประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตกต่อเนื่องกับมีฝนตกหนักบางแห่งในบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล กับมีฝนตกหนักมากบริเวณภาคตะวันออก จึงขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนัก และฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

สำหรับลมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามันตอนบน ภาคใต้ และอ่าวไทย ทำให้ทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร และทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1–2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ไว้ด้วย

อ่านข่าวเพิ่ม เช็กเส้นทางพายุไซโคลน "MOCHA” แค่เฉียดไทย แต่ทำฝนตกหนัก 13-14 พ.ค.

ภาพถ่ายดาวเทียมล่าสุดพายุไซโคลน

ภาพถ่ายดาวเทียมล่าสุดพายุไซโคลน

ภาพถ่ายดาวเทียมล่าสุดพายุไซโคลน "โมคา"จ่อขึ้นฝั่งเมียนมา

"โมคา" ขึ้นฝั่งเมียนมา 14 พ.ค.

ส่วนพายุไซโคลน “โมคา” (MOCHA) บริเวณอ่าวเบงกอลตอนกลางมีแนวโน้มจะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเมียนมา ในช่วงวันที่ 14-15 พ.ค.นี้ สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันจะมีกำลังแรงขึ้นในช่วงวันที่ 13-15 พ.ค.นี้

โดยบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 16 พ.ค.นี้

ภาคเหนือ

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจ. แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปางน่าน แพร่ ตาก กำแพงเพชร พิจิตร สุโขทัย และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-36 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 70 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจ.เลย อุดรธานี สกลนคร นครพนม ชัยภูมิ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร มหาสารคามร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส

ภาคกลาง

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณ จ.นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท ลพบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี กาญจนบุรี และราชบุรีอุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-37 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออก

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง
บริเวณจ.ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 25-28 องศาเซลเซียสอุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียสทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)

อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมาก บริเวณจ.ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส ตั้งแต่จ.ระนองขึ้นมา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตรตั้งแต่ จ.ภูเก็ตลงไป ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

กรุงเทพและปริมณฑล

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่งอุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียสอุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส

ข่าวที่เกี่ยวข้อง