ภัยเงียบต้องระวัง “มะเร็งตับและท่อน้ำดี” ระยะแรกมักไม่แสดงอาการ

สังคม
5 ส.ค. 66
14:41
1,308
Logo Thai PBS
ภัยเงียบต้องระวัง “มะเร็งตับและท่อน้ำดี” ระยะแรกมักไม่แสดงอาการ
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
กรมการแพทย์ชี้ "มะเร็งตับและท่อน้ำดี" พบมากเป็นอันดับ 1 ของมะเร็งทั้งหมดที่พบในไทย ระยะแรกมักไม่มีอาการ และแต่ละคนอาจแสดงอาการแตกกัน

วันนี้ (5 ส.ค.2566) นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวถึงสถานการณ์ "มะเร็งตับและท่อน้ำดี" ในประเทศไทย ว่า มะเร็งตับและท่อน้ำดี เป็นมะเร็งที่พบเป็นอันดับ 1 ในเพศชาย และอันดับ 3 ในเพศหญิง จากข้อมูลทะเบียนมะเร็งประเทศไทยปี 2561 พบว่ามีผู้ป่วยมะเร็งตับรายใหม่ 22,213 คนต่อปี ในจำนวนนี้มีผู้เสียชีวิต 15,650 คนต่อปี

มะเร็งตับที่พบมากในประเทศไทยมี 2 ชนิด คือ มะเร็งของเซลล์ตับ และมะเร็งท่อน้ำดีตับ โดยพบมากในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ

สาเหตุของมะเร็งตับ ส่วนมากเกิดจากการเป็นพาหะของไวรัสตับอักเสบชนิดบี ส่วนสาเหตุของมะเร็งท่อน้ำดี เกิดจากพยาธิใบไม้ตับร่วมกับการรับประทานอาหารที่มีดินประสิว (ไนเตรท) และไนไตรท์ เช่น ปลาร้า ปลาจ่อม ปลาส้มแหนม ฯลฯ นอกจากนี้ การดื่มสุราเป็นประจำ การรับสารพิษอะฟลาทอกซินที่เกิดจากเชื้อราบางชนิดที่พบในอาหารประเภทถั่ว ข้าวโพด พริกแห้ง รวมถึงไวรัสตับอักเสบชนิดซี ก็เป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ทำให้เกิดมะเร็งตับได้

อาการเสี่ยงมะเร็งตับและท่อน้ำดี

ขณะที่ พญ.นภา ศิริวิวัฒนากุล ผู้อำนวยการสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กล่าวว่า ผู้ป่วยมะเร็งตับและท่อน้ำดีแต่ละคนอาจมีการแสดงอาการแตกต่างกัน โดยทั่วไปมักไม่มีอาการในระยะแรก

อาการส่วนใหญ่ที่พบ คือ แน่นท้อง ท้องอืดท้องเฟ้อเป็นประจำ อ่อนเพลีย น้ำหนักลด ปวดหรือเสียดชายโครงขวา อาจคลำพบก้อนในช่องท้อง ตัวเหลืองตาเหลือง ท้องโต และมีอาการบวมบริเวณขาทั้ง 2 ข้าง เป็นต้น

หากมีอาการเหล่านี้ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัย เช่น การตรวจเลือดดูความผิดปกติการทํางานของตับ การตรวจระดับอัลฟาฟีโตโปรตีน การอัลตราซาวด์เพื่อดูก้อนที่ตับ การเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ หรือการตรวจด้วยคลื่นแม่เหล็ก เป็นต้น สำหรับการรักษามะเร็งตับและท่อน้ำดีมีหลายวิธี ซึ่งต้องประเมินโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละคน เนื่องจากมีปัจจัยที่ต้องคํานึง

ส่วนการป้องกันโรค ทำได้โดยการให้วัคซีนไวรัสตับอักเสบชนิดบีในเด็กแรกเกิดทุกคน ไม่รับประทานปลาน้ำจืดดิบ ปรับเปลี่ยนวิธีการดำเนินชีวิตและพฤติกรรมสุขภาพ รับประทานอาหารที่ถูกต้องตามหลักโภชนาการ หลีกเลี่ยงอาหารที่มีสารก่อมะเร็ง เช่น อาหารที่อาจปนเปื้อนสารอะฟลาทอกซิน อาหารที่มีดินประสิว และอาหารหมักดอง เป็นต้น งดการดื่มสุรา และควรออกกำลังกายสม่ำเสมอ

หากสงสัยว่ามีความเสี่ยงต่อมะเร็งตับและท่อน้ำดี ควรรีบรับการตรวจวินิจฉัย โดยเฉพาะผู้ป่วยที่มีประวัติเป็นโรคตับอักเสบหรือท่อน้ำดีอักเสบเรื้อรัง ควรตรวจหามะเร็งสม่ำเสมอ จะช่วยให้สามารถรักษาได้ทันท่วงทีและลดอัตราการเสียชีวิตจากโรคมะเร็งตับหรือมะเร็งท่อน้ำดีได้

อ่านข่าวอื่นๆ

สธ.ชงตั้ง รพ.ดึง “ทันตแพทย์” อยู่ในระบบ หลังพบ เรียนจบ-ลาออกเพียบ

หนุนเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ล้วนถึง 6 เดือน หลังพบเด็กได้กินเพียง 28%

ข่าวที่เกี่ยวข้อง