จับตาโควิดสายพันธุ์ใหม่ BA.2.86 พบกลายพันธุ์ 36 ตำแหน่ง

ต่างประเทศ
21 ส.ค. 66
13:00
8,111
Logo Thai PBS
จับตาโควิดสายพันธุ์ใหม่ BA.2.86 พบกลายพันธุ์ 36 ตำแหน่ง
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โลกกลับมาให้ความสนใจ COVID-19 หลัง BA.2.86 สายพันธุ์ย่อยโอมิครอนตัวใหม่แพร่ระบาดเพิ่มขึ้น ขณะที่องค์การอนามัยโลกกำลังจับตาอย่างใกล้ชิด เพราะพบการกลายพันธุ์ 36 ตำแหน่ง มากกว่าไวรัสสายพันธุ์ย่อยรุ่นพี่

BA.2.86 เชื้อ COVID-19 สายพันธุ์ย่อยโอมิครอนตัวใหม่ ที่องค์การอนามัยโลกให้สถานะเป็นสายพันธุ์ที่ต้องเฝ้าติดตาม เนื่องจากจำนวนการกลายพันธุ์ที่พบในสายพันธุ์ย่อย ซึ่งผู้เชี่ยวชาญหลายคนมองว่า เป็นสายพันธุ์ที่โดดเด่นที่สุด นับตั้งแต่พบการระบาดของโอมิครอน

เชื่อว่า BA.2.86 มีที่มาจากสายพันธุ์ย่อย BA.2 หากนำไปเทียบกับสายพันธุ์ย่อย XBB.1.5 ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่แพร่ระบาดหลักในปัจจุบัน พบความแตกต่างถึง 36 ตำแหน่ง ทำให้มีโครงสร้างที่ต่างออกไปอย่างมาก โดยกลับไปมีลักษณะคล้ายกับสายพันธุ์ก่อน ๆ ที่เคยพบก่อนโอมิครอน

ขณะนี้พบการระบาดแล้วใน 4 ประเทศ อิสราเอลรายงานการตรวจพบครั้งแรกเมื่อช่วงกลางเดือนที่ผ่านมา รวมทั้งพบที่เดนมาร์ก สหรัฐฯ และอังกฤษ โดยในเดนมาร์กพบเชื้อ 3 ตัวอย่าง และเป็นผู้ที่อยู่กันคนละส่วนของประเทศ ไม่มีความเชื่อมโยงกัน ส่วนที่อังกฤษผู้ติดเชื้อก็ไม่มีประวัติเดินทางต่างประเทศ ทำให้สันนิษฐานได้ว่ามีการระบาดในท้องถิ่นอยู่ก่อนแล้ว

อย่างไรก็ตาม ยังไม่พบหลักฐานที่ชี้ว่าสายพันธุ์ย่อยตัวนี้ ทำให้ผู้ป่วยมีอาการรุนแรงมากขึ้น หรือแพร่ระบาดได้รวดเร็วขึ้นโดย ซึ่งต้องศึกษาต่อไป


Dr. Jesse Bloom จากศูนย์มะเร็ง Fred Hutchinson ใน Seattle ที่ศึกษาวิวัฒนาการของไวรัส ระบุว่า BA.2.86 มีการเปลี่ยนแปลงที่กรดอะมิโนมากกว่า 30 ตำแหน่ง เมื่อเทียบกับสายพันธุ์รุ่นพี่ที่ใกล้เคียงที่สุดอย่างสายพันธุ์ย่อยโอมิครอน BA.2

แต่การพบเฉพาะใน 4 ประเทศ ไม่ได้หมายความว่ามีแค่ประเทศเหล่านี้ที่พบการระบาด หรือเป็นต้นกำเนิดของไวรัส แต่เป็นเพราะทั้ง 4 ประเทศ ยังคงนำไวรัสไปวิเคราะห์ลำดับพันธุกรรม เพื่อติดตามความเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง ในทางกลับกันอาจจะยิ่งน่ากังวล เพราะหลายประเทศลดหรือเลิกการตรวจวิเคราะห์ตัวอย่างเชื้อไปมากแล้ว

BA.2.86 ปรากฏตัวขึ้นมาพอดีกับจังหวะที่บริษัทยาผู้ผลิตวัคซีน COVID-19 รายใหญ่ กำลังเตรียมจะส่งวัคซีนรุ่นใหม่ลงสนามใช้งานจริง เพื่อใช้ต่อกรกับสายพันธุ์ย่อย XBB.1.5 ภายในเดือน ก.ย.นี้ แต่ไวรัสกลับมีพัฒนาการไปอีกขั้นหนึ่ง ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับการหลบภูมิจากวัคซีน ต้องรอการศึกษาโดยผู้เชี่ยวชาญ

หากสายพันธุ์ที่ต้องเฝ้าติดตามนี้ถูกพบว่าทำให้อาการป่วยรุนแรงขึ้น รักษายากขึ้น หรือหลบภูมิคุ้มกันจากวัคซีนได้ดีขึ้น อาจถูกขยับสถานะขึ้นเป็นสายพันธุ์ที่น่าสนใจ หรือสายพันธุ์ที่น่ากังวล ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีสายพันธุ์ใดถูกจัดเป็นสายพันธุ์ที่น่ากังวล ส่วนสายพันธุ์ที่น่าสนใจ ประกอบไปด้วย XBB.1.5 XBB.1.16 และ EG.5

ล่าสุดสายพันธุ์ย่อยโอมิครอน EG.5 หรือเอริส เป็นเชื้ออีกสายพันธุ์หนึ่งที่ได้รับความสนใจ หลังแพร่ระบาดเป็นวงกว้าง อย่างในจีนประกาศว่าสัดส่วนของผู้ติดเชื้อสายพันธุ์ย่อยนี้เพิ่มจากร้อยละ 0.6 เมื่อเดือน เม.ย. เป็นร้อยละ 71.6 ในเดือน ส.ค.นี้ หลังจากพบครั้งแรกที่อินโดนีเซีย เมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา ขณะที่ปัจจุบันพบได้ในไม่ต่ำกว่า 52 ประเทศและดินแดน

อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญ ระบุว่า วัคซีนยังสามารถช่วยลดอัตราการป่วยหนักและเสียชีวิตได้อย่างมีนัยสำคัญ แม้ว่าไวรัสจะพัฒนาไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเอริส EG.5 หรือ BA.2.86 ที่บางคนเรียกชื่อเล่นในโลกออนไลน์ว่า พิโรลา แต่ไม่ได้เป็นชื่อทางการจากองค์การอนามัยโลก เช่นเดียวกับรายละเอียดความคืบหน้าอื่น ๆ เกี่ยวกับสายพันธุ์ย่อยตัวนี้ ยังต้องรอติดตามข้อมูลต่อไป

วิเคราะห์โดย วินิจฐา จิตร์กรี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง