สหรัฐฯจัดพิธีใน 3 จุดสำคัญรำลึกเหตุการณ์ 9/11

พิธีรำลึก10 ปีเหตุการณ์ผู้ก่อการร้ายก่อวินาศกรรมครั้งใหญ่ในสหรัฐเมื่อวันที่ 11 ก.ย.ปีพุทธศักราช 2544 เป็นไปอย่างเศร้าสะเทือนใจ และ มีการเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ซึ่งระหว่างนี้พิธีอย่างเป็นทางการยังคงดำเนินต่อไปใน 3 สถานที่เกิดเหตุ

พิธีอย่างเป็นทางการเริ่มที่จุดเกิดเหตุแรก คือ กราวน์ซีโร่ ในมหานครนิวยอร์ก ซึ่งเป็นอนุสรณ์สถานอาคารแฝดเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ที่ถูกผู้ก่อการร้ายจี้บังคับเครื่องบินโดยสาร 2 ลำมาพุ่งชนจนถล่ม โดยนายจอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีขณะเกิดเหตุ ได้หยิบยกถ้อยความในจดหมายของอดีตประธานาธิบดีอับราฮัม ลินคอล์น ซึ่งส่งไปถึงสตรีผู้หนึ่งที่ต้องสูญเสียบุตรชายไปถึง 5 คนในสงครามกลางเมืองอเมริกัน โดยจดหมายมีใจความว่า "เขา ซึ่งหมายถึงตัวอดีตประธานาธิบดีลินคอล์น ไม่รู้จะสรรหาคำใดๆ มาปลอบประโลมให้คลายความเศร้าโศรกได้ แต่ก็ขอเรียนด้วยความขอบคุณในนามสาธารณรัฐอเมริกันแห่งนี้ว่า ลูกชายทั้ง 5 คนของคุณแม่ สละชีวิตเพื่อปกป้องเอาไว้"

ก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีบารัค โอบาม่า และ ภริยาได้มาเป็นประธานในการเปิดพิธีรำลึก 10 ปีเหตุการณ์วินาศกรรมสหรัฐที่กราวน์ซีโร่ โดยนายโอบาม่า ได้หยิบยกเนื้อหาในคัมภีร์ไบเบิ้ลมากล่าวเพื่อไว้อาลัยให้กับผู้เสียชีวิตจากกว่า 90 ประเทศ เกือบ 3,000 คนในวันนั้น จากนั้นบรรดาญาติๆ ได้อ่านรายชื่อของผู้เสียชีวิตเพื่อเป็นการสดุดีและรำลึกถึง

ระหว่างที่พิธีกำลังดำเนินอยู่นี้ได้มีการคั่นเป็นระยะด้วยการยืนสงบนิ่งเพื่อไว้อาลัยในเวลาที่เกิดเหตุ รวม 6 ครั้ง ครั้งละ 1 นาที ซึ่งนาทีแรกคือเวลา 08.46 น.ที่สายการบินอเมริกันแอร์ไลน์พุ่งชนตึก"นอร์ธ ทาวเวอร์" ตามมาด้วยเวลา 09.59 น.ที่"เซ้าท์ทาวเวอร์"ถล่ม

จากนั้นประธานาธิบดีโอบาม่าได้เดินทางไปยังเมือง "แชงค์สวิลล์"ในรัฐเพนซิลเวเนีย โดยได้วางหรีดเพื่อไว้อาลัยต่อผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์เที่ยวบินที่ 93 ตกลงในท้องทุ่ง

ก่อนหน้านี้อดีตประธานาธิบดีบุช ได้กล่าวสดุดีต่อผู้เสียชีวิตที่นี่ว่า ทั้งผู้โดยสาร และ ลูกเรือ 40 คนได้แสดงความหาญกล้าอย่างที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐ นั่นคือการต่อสู้กับสลัดอากาศจนทำให้ตัวเองต้องเสียชีวิต แต่เป็นการจบชีวิตตนเองเพื่อรักษาชีวิตคนอื่นไว้นับร้อยนับพัน โดยเครื่องบินโดยสารเที่ยวบินที่ 93 ถูกผู้ก่อการร้ายบังคับให้มุ่งหน้าไปโจมตีเป้าหมายภายในกรุงวอชิงตัน ซึ่งการต่อสู้ได้รับการยืนยันจากผลการสอบสวนและเสียงจากกล่องดำ

 ต่อจากนี้นายโอบาม่าจะเดินทางไปที่อาคารเพนตากอน ที่ทำการกระทรวงกลาโหม ซึ่งถูกผู้ก่อการร้ายจึ้บังคับเครื่องบินมาพุ่งชนเช่นกัน เหตุการณ์เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2544 มีเครื่องบินโดยสารถูกจี้บังคับมาทำเป็นเหมือนขีปนาวุธทั้งสิ้น 4 ลำ และสำหรับจำนวนผู้เสียชีวิตจริงๆ มี 2,977 คน ทั้งนี้ไม่รวม 19 ผู้ก่อการร้าย

เหตุการณ์ 9/11 ได้นำมาสู่การพลิกแผ่นดินล่าตัวนายโอซามะห์ บิน ลาดิน หัวหน้าเครือข่ายก่อการร้ายอัลกออิดะห์ ซึ่งสหรัฐเชื่อว่าเป็นผู้บงการ จากนั้นสหรัฐเรียกร้องให้รัฐบาลตอลีบันในอัฟกานิสถาน ซึ่งเชื่อว่าให้ที่พัก และ คุ้มครองส่งมอบตัวนายบิน ลาดิน แต่ถูกปฏิเสธ สหรัฐจึงบุกโค่นล้ม รวมถึงการบุกโค่นล้มประธานาธิบดีซัดดัมฮุสเซนของอิรัก

นายบินลาดินหลบหนีมาได้เป็นเวลานานแต่ก่อนจะครบ 10 ปีของเหตุการณ์เพียงไม่กี่เดือน นายโอบาม่าได้ส่งหน่วยปฏิบัติการพิเศษบุกข้ามชาติจากอัฟกานิสถานเข้าไปสังหารในปากีสถาน ทั้งนี้นายโอบาม่าคัดค้านการทำสงครามทั้งในอิรักและอัฟกานิสถาน จนนำมาสู่นโยบายถอนทหารอเมริกันออกมาโดยเร็ว

พิธีรำลึก 10 ปีเหตุการณ์นายวันวันยังได้จัดขึ้นหลายแห่งทั่วโลก แต่สำหรับในสหรัฐที่เป็นจุดเกิดเหตุ พิธีที่กำลังดำเนินอยู่นี้ก็เป็นไปท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด เพราะมีรายงานว่า ผู้ก่อการร้ายอาจพยายามใช้รถยนต์บรรทุกระเบิดเข้าโจมตีเป้าหมายหลายแห่ง ซึ่งก็เป็นเหตุที่ทำให้ประธานาธิบดีโอบาม่าต้องยืนอยู่หลังกระจกกันกระสุน