จับกระแสการเมือง 21 มี.ค.67 ปทุมวันการละคร "บิ๊กต่อ-บิ๊กโจ๊ก" แค่พักยก ผบ.ตร.แพ้ตั้งแต่ยังไม่ได้สู้

การเมือง
21 มี.ค. 67
18:57
836
Logo Thai PBS
จับกระแสการเมือง 21 มี.ค.67 ปทุมวันการละคร "บิ๊กต่อ-บิ๊กโจ๊ก" แค่พักยก ผบ.ตร.แพ้ตั้งแต่ยังไม่ได้สู้
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)

ยังไม่ใช่ฉากสุดท้ายของ "ปทุมวันการละคร" แม้เบื้องต้นจะได้ข้อยุติให้ 2 บิ๊กตำรวจ "บิ๊กต่อ" พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร.และ "บิ๊กโจ๊ก" พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล มาช่วยราชการที่ สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ตามคำสั่งของ "นายกฯนิด" เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในฐานะแม่ทัพห้ามศึก ก่อนจะเกิดเหตุการณ์บานปลายนำไปสู่วิกฤตศรัทธาตำรวจไทย

ในช่วงสายวันนี้ "บิ๊กต่อ" พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ปรากฏกายที่ทำเนียบรัฐบาล โดยเดินทางเข้ามาที่สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อรายงานตัวกับนายธีระพงษ์ วงศ์ศิวะวิลาส ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี​ แม้ได้หลบนักข่าว แถม "บิ๊กต่อ" ส่งท่า มินิฮาร์ท แต่กลับเลือกใช้ประตูทางเข้าอีกอาคาร และเดินขึ้นบันไดชั้น 2 มาที่หน้าห้องปลัด ไม่ผ่านด้านหน้าที่มีกองทัพสื่อมวลชนที่ปักหลักรออยู่ โดยใช้เวลารายงานตัวนานกว่า 50 นาที

ต่อมา "บิ๊กต่อ" พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ยอมรับว่า ในฐานะหัวหน้าหน่วยว่า คือความบกพร่อง ที่ทำให้องค์กรเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันไม่ได้ ยอมรับสภาพ พร้อมที่จะชี้แจงต่อคณะกรรมการ และไม่ได้รู้สึกน้อยใจ แม้อายุราชการ จะเหลือน้อยก็ตาม จะช้าหรือเร็วอย่างไรก็ต้องลุก เป็นอะไรงานเลี้ยงต้องมีวันเลิกรา

ภาระงานที่ได้รับมอบหมายให้ดูงานจิตอาสา ซึ่งทำอยู่แล้ว รวมถึงให้คำปรึกษาเรื่องการดูแลการชุมนุมต่างๆ เนื่องจากเราเป็น ผบ.ตร.มา ซึ่งจะเดินทางเข้ามาทำงานทุกวัน แต่ยังคงต้องเข้าเวรราชองครักษ์อยู่

วันนี้พี่ถอดหัวโขน อยู่แค่ตำแหน่ง ผบ.ตร.หัวโขนในการปฏิบัติหน้าที่ ก็ถอดออก มานั่งที่นี่ก็ใส่หัวโขนที่นี่ โรงละครของเราเลิกแล้ว ก็เก็บฉาก เก็บเครื่องแต่งตัว ปิดไฟ หอบเสื่อกลับบ้าน
ชีวิตเรามีเท่านี้ จะมาเครียดอะไร มาเร็วก็ต้องจากกัน ไม่เครียดหรอก ยืนยันไม่ช็อก เพราะรู้ล่วงหน้ามาก่อนแล้ว รู้ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะเรียกเข้าพบด้วย รู้ส่วนตัวอยู่แล้ว

ในเวลาไล่เลี่ยกัน "บิ๊กโจ๊ก" พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ก็เดินทางมาถึงสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในเวลา 09.55 น. ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม เหตุเพราะมีความคุ้นชิน ห้องไหน อยู่ตรงไหน ทราบหมดถือว่ากลับบ้านเก่า เพราะเคยมาอยู่นี่แล้ว 2 ปี ไม่มีความกดดัน ที่ต้องกลับมาที่นี่ มีงานอะไรเราก็ทำ คาดว่าทางสำนักนายกฯ เตรียมงานไว้แต่ผู้บังคับบัญชาจะมอบหมายให้ไปทำงานที่ไหนก็ต้องทำ แต่ต้องมีวินัย

เมื่อคนมองว่ามีชีวิตที่ 10-11 นั้น "บิ๊กโจ๊ก" ยิ้ม พร้อมบอกว่าไม่มีอะไรหรอก วันนี้ก็ทำหน้าที่ปกติ เขามีโอกาสให้ทำงานก็ต้องทำงาน

ส่วนรอบนี้จะ Never Die หรือไม่ ไม่รู้ เพราะก็ทำหน้าที่ไปตามปกติตามที่ได้รับมอบหมาย

ส่วนคดีที่มีการฟ้องร้องกันก่อนหน้านี้จะยุติหรือไม่นั้น บิ๊กโจ๊ก บอกว่า พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ คงจะนัดคุยและต้องมีการเริ่มต้นกันใหม่ เพราะคดีความมีหลายส่วน และรู้สึกสบายใจเมื่อคืนก็นอนหลับดี และการกลับมาอยู่ที่สำนักปลัดนายกฯเหมือนกับบ้านเก่า

อ่านข่าว : “ดาบเดียว” ฟันฉับ 2 บิ๊กตร. การันตีนายกฯ ของจริง

อ่านข่าว : "บิ๊กต่อ" รับบกพร่องทำตร.ไร้เอกภาพ ควง "บิ๊กโจ๊ก" รายงานตัว

สำหรับเส้นทางชีวิต "บิ๊กโจ๊ก" พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หากจำกันได้ ได้เหยียบย่างเข้าทำเนียบฯ ครั้งแรกเมื่อ 9 เม.ย.2562 หลังจาก พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ในขณะนั้น ได้ลงนามคำสั่งวิทยุในราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ด่วนพิเศษ ให้ "บิ๊กโจ๊ก" ผบช.สตม.ขณะนั้น ไปปฏิบัติราชการที่ ศปก.ตร.โดยขาดจากการปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งเดิม

วันเดียวกัน เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศคำสั่งหัวหน้า คสช.แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง โดยให้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ขาดจากตำแหน่งหน้าที่และอัตราเงินเดือนเดิม ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อโอนไปเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญ ประเภทบริหารระดับสูง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

ในขณะที่ผู้รักษาราชการแทนอย่าง "บิ๊กต่าย" พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร.บอกว่า ยังไม่มีความจำเป็นต้องสับเปลี่ยนสายงานของตำรวจระดับ รอง และผู้ช่วย ผบ.ตร. ทุกนายยังคงปฏิบัติตามหน้าที่ ส่วนตัวเองเป็นเพียงแค่รักษาการเท่านั้น เพราะ พล.ต.อ.ต่อศักด์ สุขวิมล ยังคงเป็น ผบ.ตร.

สำหรับกระแสข่าว ที่อาจถูกพิจารณาคัดเลือกให้เป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนต่อไปนั้น "บิ๊กต่าย" เผยว่า ยังคงไม่คิดถึงเรื่องนั้น ปัจจุบันขอทำหน้าที่ตามที่ผู้บังคับบัญชามอบหมายให้สำเร็จ และไม่เคยคาดหวังถึงเรื่องอนาคต

อ่านข่าว : "บิ๊กต่าย" ย้ำทำหน้าที่ตามคำสั่ง เดินหน้าแก้บ่อน-พนันออนไลน์

"งานนี้ ผบ.ตร.แพ้ครับ" นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นถึงกรณีดังกล่าว

เรื่องนี้ ตีความไปได้ 3 ทาง คือ หากถือว่า ความขัดแย้งระหว่าง ผบ.ตร.และ รอง ผบ.ตร.เป็นความขัดแย้งในเรื่อง “ส่วนตัว” หมายถึงเอาเรื่อง “ส่วนตัว” มาทะเลาะกัน จนทำให้การบริหารงานใน สตช.เละเทะ การแยกทั้งคู่ออกมา นั่นน่าจะถูกแล้ว

หากเป็นความขัดแย้งในการบริหารราชการแผ่นดิน “มิใช่เรื่องส่วนตัว”ความขัดแย้งเช่นนี้ ต้องมีคนผิด 1 คน และคนถูก 1 คน หากเป็นดังนั้น ต้องแยกคนผิดออกมา ให้คนถูกทำงานในหน้าที่ต่อไป การแยกคนถูกออกมาถือเป็นการลงโทษคนถูกที่ไม่ได้ทำผิด ปกติเขาไม่ทำกัน

นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ

นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ

นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ

และ หากเป็นกรณีที่ทั้ง 2 ฝ่าย มีแนวโน้มกระทำผิดตามที่ต่างกล่าวหาซึ่งกันและกัน การแยกทั้ง 2 ฝ่ายออกมาเพื่อให้การสืบสวน-สอบสวน เป็นไปด้วยความยุติธรรม ก็ถูกแล้ว หากต่อไปมีปลัดกระทรวงขัดแย้งกับรองปลัด หรือ ผู้ว่าขัดแย้งกับรองผู้ว่า เพื่อตัดปัญหา ผู้มีอำนาจทางการเมืองจะย้ายทั้ง 2 ฝ่ายออกจากหน่วยงานหรือ?

ขอย้ำ!!! ผบ.ตร.ยังไม่ถูกกล่าวหาด้วยเรื่องอันใดเลย ขณะที่ รอง ผบ.ตร.คดีไปถึง ป.ป.ช.แล้วจะเป็นประการใดก็ตาม งานนี้ ผบ.ตร. มีตำหนิในชีวิตราชการไปแล้ว

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น “เหนือความคาดหมาย” งานนี้ ผบ.ตร.แพ้ครับ!! และเป็นการแพ้ในขณะที่ยังไม่ได้ต่อสู้เลย เว้นแต่ ผบ.ตร.เห็นว่า “ข้อมูล” ที่อีกฝ่ายหนึ่งมีอยู่ในมือ เป็นข้อมูลที่สาหัสสากรรจ์ สามารถทำร้ายตนได้ จึงยอมก้มหน้าเดินออกมาโดยไม่ยอมต่อสู้เลย นิพิฏฐ์ กล่าวทิ้งท้าย

หวังหย่าศึก 2 บิ๊กตำรวจ ภายใน 60 วัน ซึ่งไม่ใช่เป็นการลงโทษ แต่เป็นการเปิดทางให้คณะกรรมการสอบสวนสืบหาความจริง เพื่อไม่ให้มีการแทรกแซงใดๆ และดูเหมือนทุกอย่างจะลงตัว แต่ในทางคดีแล้วนั้นทุกอย่างยังคงเดินหน้าต่อ

ที่ว่าคดียังไม่จบเพราะหาก "บิ๊กโจ๊ก" ผู้ที่มีอาวุโสเป็นอันดับ 1 เป็นแคนดิเดต ผบ.ตร.หากได้รับผลกระทบกระแสข่าว อาจทำให้ชวดเก้าอี้ ผบ.ตร.ได้

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร.

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร.

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร.

และหาก "บิ๊กโจ๊ก" พ้นทางเก้าอี้ผู้นำกรมปทุมวัน จะทำให้ "บิ๊กต่าย" พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร.ลำดับอาวุโสอันดับ 2 ที่จะเกษียณอายุราชการ ปี 2569 ขึ้นมาเป็นแคนดิเดต ผบ.ตร.ทันที

และสำหรับเก้าอี้ รอง ผบ.ตร.ที่ว่าง นั้น "บิ๊กจวบ" พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร.อาวุโสลำดับ 1 นรต.รุ่น 39 ที่ก่อนหน้านี้มีชื่อปรากฏว่าอาจได้ขยับขึ้นแทน พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. นรต.รุ่น 40 ที่โยกไปนั่ง เลขาฯ สมช. ทำให้ "บิ๊กจวบ" มีสิทธิ์เข้าชิงเก้าอี้ ผบ.ตร.ในช่วงปลายปีนี้ด้วย

 พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค , พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรี

พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค , พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรี

พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค , พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรี

แฮปปี้เบิร์ดเดย์ "ลุงตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรี อดีตนายกฯคนที่ 29 ซึ่งจะมีอายุครบรอบ 70 ปีในวันนี้ (21 มี.ค.2567) เมื่อ "บิ๊กตุ๋ย" พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะ รมว.พลังงาน โพสต์อวยพร "ลุงตู่ของพวกเรา" อยากบอกพวกเราคิดถึงท่านเสมอและขอขอบพระคุณในนานาคุณูปการที่ท่านทำไว้ให้กับชาติบ้านเมืองครับ

ขณะที่ "เสี่ยหนู" นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ไม่น้อยหน้า เข้าอวยพร "ลุงตู่" บอกท่านสดใส ดูฟิต ใจดี

"ลุงตู่" เป็นห่วงตามความเป็นผู้ใหญ่ของบ้านเมืองอยู่แล้ว ซึ่งตนได้เล่าให้ฟังว่าการทำงานในรัฐบาลนี้ราบรื่นดี พรรคร่วมรัฐบาลก็รักกันดี และทำงานสอดคล้องกัน และในส่วนของกระทรวงมหาดไทยก็ไม่ได้ฝากอะไรเป็นพิเศษ อนุทิน กล่าวทิ้งท้าย

อ่านข่าว : รอยร้าวใน ตร.

“นายกฯ” ประชุม ก.ตร.เร่งด่วน จี้หยุดให้ข่าว-ลดขัดแย้ง ให้รอผลสอบของกรรมการ

ตั้ง "ฉัตรชัย-ชาติพงษ์-พล.ต.อ.วินัย" สอบปมขัดแย้งใน ตร.

อ่านข่าวเพิ่ม : “ดาบเดียว” ฟันฉับ 2 บิ๊กตร. การันตีนายกฯ ของจริง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง