ชาวบ้านใน ซ.วิภาวดีรังสิต 12 ไม่พอใจถูกนำกระสอบทรายปิดทางน้ำ
ระดับน้ำบนถนนวิภาวดีรังสิตทั้งขาเข้าและขาออกที่มีทีท่าลดลงจากการวัดระดับน้ำในคลองบางซื่อ สถานีสูบน้ำที่ 5 พบว่าอยู่ที่ประมาณ 80 เซนติเมตร เหนือระดับทะเลปานกลาง ลดลงจากเดิมที่เคยอยู่ที่ 95 เซนติเมตร ขณะที่บริเวณซอยวิภาวดีรังสิต 12 สำนักงานเขตดินแดงได้นำกระสอบทรายมากั้นทางน้ำที่ไหลผ่านบริเวณปากซอย เพื่อเบี่ยงทางน้ำให้ไหลลงคูด้านหน้า ก่อนจะส่งต่อไปยังคลองบางซื่อ ทำให้ชาวบ้านที่อาศัยในซอยเกิดความไม่พอใจ พร้อมกับระบุว่า ระดับน้ำที่ท้ายซอยสูงถึงเอวแล้ว และเห็นว่าการกั้นกระสอบทรายไม่เป็นผลเพราะพนังที่กั้นอยู่ที่ท้ายซอย มีรอยรั่ว ทำให้น้ำทะลักเข้าสู่ชุมชนมากยิ่งขึ้น
ขณะที่นายแสนสุข สตงคุณห์ ผู้อำนวยการเขตดินแดง กล่าวว่า การกั้นกระสอบทรายครั้งนี้จำเป็นต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ และทหารเข้ามาดูแล เพื่อป้องกันชาวบ้านรื้อออกอีก หลังจากเคยรื้อมาแล้ว เพราะหากปล่อยให้น้ำไหลออกจากซอย อาจส่งผลกระทบต่อแยกสุทธิสารไปจนถึงอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิได้
ส่วนการเร่งระบายน้ำที่สถานีสูบน้ำที่ 4 ใกล้กับซอยวิภาวดีรังสิต 12 เจ้าหน้าที่ได้นำเครื่องดันน้ำ 3 ตัวมาติดตั้ง เพื่อผลักดันน้ำไปลงบึงมักกะสัน โดยต้องการให้อุโมงค์ยักษ์ทำงานได้มากขึ้น และจะส่งผลให้การระบายน้ำบนถนนวิภาวดีรังสิตรวมถึงพหลโยธินเป็นไปได้เร็วขึ้น ซึ่งระดับน้ำบนถนนพหลโยธิน เขตจตุจักร จุดสิ้นสุดของน้ำยังคงอยู่ที่บริเวณสะพานข้ามคลองบางซื่อ ส่วนระดับน้ำในคลองก็คงที่มาเป็นวันที่สามแล้ว
ขณะเดียวกัน ที่คลองบางซื่อ ใกล้วัดสะพานสูง บริเวณจุดติดตั้งเรือผลักดันน้ำ เจ้าหน้าที่สำนักการระบายน้ำ เปิดเผยว่า การผลักดันน้ำยังไม่ได้ผลเท่าที่ควร สาเหตุจากคลองบางซื่อในช่วงที่ไหลผ่านชุมชนแฟลตเตาปูนมีสภาพเป็นคอขวด และมีสิ่งกีดขวางทางน้ำทำให้น้ำไหลได้ช้าลง