ชาวนบพิตำกว่า 200 ครัวเรือนอพยพออกพื้นที่ หวั่นเกิดดินถล่ม

ภูมิภาค
29 พ.ย. 54
01:24
8
Logo Thai PBS
ชาวนบพิตำกว่า 200 ครัวเรือนอพยพออกพื้นที่ หวั่นเกิดดินถล่ม

ความเสียหายจากคลื่นสูงที่พัดอาคารเรียนโรงเรียนวัดแหลมตะลุมพุก ทำให้ครูและ นักเรียนออกมาเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลในการสร้างอาคารเรียนแห่งใหม่ ส่วนชาวบ้านในอำเภอนบพิตำ และ แหลมตะลุมพุก จังหวัดนครศรีธรรมราช ยังไม่มั่นใจในความปลอดภัยเนื่องจากเกรงว่าจะเกิดสถานการณ์ดินถล่ม หลังจากกรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเตือนว่า ฝนจะตกหนักอีกครั้งในเดือนธันวาคม

ชาวบ้านกว่า 200 ครอบครัว ที่บ้านเชิงเขา ตำบลกรุงชิง อำเภอนบพิตำ จังหวัดนครศรีธรรมราช ต้องอพยพย้ายครอบครัวมาอยู่ในที่ปลอดภัย หลังฝนที่ตกลงมาอย่างหนักตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาทำให้เกิดดินสไลด์ ทับบ้านเรือน และ สวนยางพาราของชาวบ้านได้รับความเสียหาย กว่า 100 จุด

เหตุการณ์ดินสไลด์เมื่อ 7 เดือนก่อนทำให้ชาวบ้านกว่าพันคน ใน 11 หมู่บ้านแห่งนี้ต้องถูกตัดขาดจากโลกภายนอก ชาวบ้านจึงรู้สึกหวาดผวา และเกรงว่า จะเกิดเหตุการณ์ดินสไลด์อีกครั้งทำให้ต้องอพยพมาอยู่ในที่ปลอดภัย นอกจากนี้ฝนที่ตกหนักทำให้อุทยานแห่งชาติเขาหลวงประกาศปิดน้ำตก 5 แห่งเพราะเกรงว่าจะเกิดน้ำป่าไหลหลาก ได้แก่ น้ำตกอ้าเขียว พรหมโลก กรุงชิง กะโรม และท่าแพ เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว

ขณะที่ครู และ นักเรียนโรงเรียนวัดแหลมตะลุมพุก อำเภอปากพนัง กว่า 50 คนได้ออกมาเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งหาสถานที่ปลอดภัยเพื่อสร้างโรงเรียนแห่งใหม่เพราะไม่มั่นใจในความปลอดภัยเนื่องจากโรงเรียนแห่งนี้ อยู่ใกล้ฝั่งทำให้ถูกคลื่นสูงซัดฐานอาคารเรียนทรุดได้รับความเสียหาย แม้ว่าทางโรงเรียนจะมีการซ่อมแซมบางส่วน และ สร้างโรงเรียนแห่งใหม่ที่ห่างฝั่ง แต่ความเสียหายที่เกิดขึ้นทุกปีทำให้อาคารเรียนแห่งนี้ พร้อมที่จะทรุดลงมาได้ตลอดเวลา

ด้านสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้นำเฮลิคอปเตอร์บินดูสภาพพื้นที่น้ำท่วมในหลายอำเภอของจังหวัดนราธิวาส ปัตตานี และจังหวัดยะลา พบว่า หลายพื้นที่ยังถูกน้ำท่วมขัง โดยเฉพาะหลายตำบลที่อยู่ติดริมแม่น้ำ

 
ส่วนผู้ที่ใช้รถบนทางสายใหม่ปัตตานี-ยะลา บริเวณบ้านคูดขุด ตำบลดอกรัก อำเภอหนองจิก ต้องใช้ความระมัดระวัง ขณะที่รถเล็กไม่สามารถผ่านได้ เนื่องจากระดับน้ำสูงกว่า 20 เซนติเมตร เช่นเดียวกับบ้านที่อยู่ติดริมถนนถูกน้ำท่วมสูงกว่า 50 เซนติเมตร ต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 ทำให้บางครอบครัวตัดสินใจอพยพขึ้นไปอาศัยอยู่บนถนนเพื่อความปลอดภัย

ขณะที่สถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดนราธิวาสมีเพียงบ้านและพื้นที่ทางการเกษตร ที่ตั้งอยู่ติดกับแม่น้ำสุไหงโก-ลก บางนรา และ แม่น้ำสายบุรี ที่ยังถูกน้ำท่วม บางครอบครัวที่อพยพไปอยู่ตามโรงเรียน และสถานที่ราชการยังไม่กล้ากลับเข้าบ้าน เพราะเกรงว่าอาจมีฝนตกมาอีก เนื่องจากช่วงปลายปีที่ผ่านมา พื้นที่นี้ต้องประสบปัญหาน้ำท่วมฉับพลับถึง 3 ครั้งในช่วงระยะเวลาเพียง 2 เดือน

 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง