กลุ่มไอเอสเน้นโจมตีเมืองใหญ่-แหล่งท่องเที่ยวมากขึ้น พร้อมพุ่งเป้าหมายไปที่พลเรือน

วันนี้ (17 พ.ย.2558) ไทยพีบีเอสรวบรวมเหตุก่อการร้ายในช่วงที่ผ่านมาที่สะท้อนให้เห็นถึงการปรับยุทธศาสตร์การโจมตีของไอเอส เริ่มต้นด้วยเหตุกราดยิงนักท่องเที่ยวที่ชายหาดในเมืองซูสส์ ซึ่งเป็นเมืองตากอากาศยอดนิยมของประเทศตูนิเซีย เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.2558 ทำให้มีผู้เสียชีวิต 39 คน รวมถึงผู้ก่อเหตุที่ถูกตำรวจยิงเสียชีวิต ส่วนนักท่องเที่ยวที่เสียชีวิตเกือบทั้งหมดเป็นชาวอังกฤษ

 

วันที่ 31 ต.ค.2558 เครื่องบินของสายการบิน Metrojet เที่ยวบิน 9268 ที่เดินทางออกจากเมืองชาร์ม เอล ชี้ค เมืองตากอากาศชื่อดังของอียิปต์ มุ่งหน้าสู่นครเซนต์ปีเตอร์เบิร์กของรัสเซีย ประสบเหตุตกบริเวณคาบสมุทรไซนาย หลังออกเดินทางจากสนามบินได้เพียง 23 นาที ทำให้คนบนเครื่อง 224 คน เสียชีวิตทั้งหมด ในจำนวนนี้เป็นชาวรัสเซียเกือบทั้งหมด 

 

หลังเกิดเหตุกลุ่มไอเอสที่มีฐานปฏิบัติการอยู่บริเวณคาบสมุทรไซนาย ออกมาอ้างความรับผิดชอบ ซึ่งล่าสุดในวันนี้ ทางการรัสเซียยอมรับว่าสาเหตุที่ทำให้เครื่องบินตก เกิดจากการวางระเบิดน้ำหนัก 1 กิโลกรัมบนเครื่องบินลำนี้จริง ทำให้นายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซียประกาศว่าจะยกระดับการโจมตีกลุ่มไอเอสในซีเรีย เพื่อเป็นการตอบโต้และให้พวกอาชญากรรมตระหนักกว่าพวกเขาไม่อาจหนีพ้นการล้างแค้นไปได้

 

วันที่ 12 พ.ย.2558 เกิดระเบิด 2 จุดในย่านมุสลิมชีอะห์ กรุงเบรุต ประเทศเลบานอน เสียชีวิต 44 คน ซึ่งกลุ่มไอเอสอ้างในเวลาต่อมาว่าเป็นผู้ลงมือ หลังเกิดเหตุระเบิดที่ประเทศเลบานอนไม่ถึง 24 ชั่วโมง ก็เกิดเหตุก่อการร้ายที่กรุงปารีสของฝรั่งเศสในวันที่ 13 พ.ย.2558 มีทั้งการกราดยิงและระเบิดฆ่าตัวตาย ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 129 คน บาดเจ็บมากกว่า 300 คน ซึ่งการโจมตีในกรุงปารีส ดูเหมือนจะเป็นเหตุการณ์ที่ได้รับความสนใจมากที่สุด เมื่อวัดจากความสนใจของประชาชนในโลกออนไลน์ และเหตุการณ์นี้กลายเป็นข่าวที่สำนักข่าวระดับโลกให้ความสนใจอย่างมาก

 

ทั้งนี้ กลุ่มไอเอสประกาศเป้าหมายในการโจมตีครั้งต่อไป ได้แก่ กรุงวอชิงตัน ดีซี ของสหรัฐอเมริกา, กรุงโรม ประเทศอิตาลี และกรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร ส่งผลให้ประเทศเหล่านี้ต้องปรับมาตรการรักษาความปลอดภัยและหันมาร่วมมือกันให้มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านข่าวกรอง สิ่งที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นว่ากลุ่มไอเอสหันมาเน้นการโจมตีเป้าหมายในต่างประเทศมากขึ้น โดยสั่งให้สมาชิก หรือผู้ที่มีอุดมการณ์เดียวกัน และอยู่ในประเทศเป้าหมายลงมือโจมตีได้เลย

 

ด้านนักวิเคราะห์มองว่าสาเหตุของการเปลี่ยนยุทธศาสตร์เป็นเพราะฐานที่มั่นในอิรักและซีเรียได้รับความเสียหายอย่างหนัก ประกอบกับการลงมือตามเมืองใหญ่ๆ โดยให้คนในประเทศลงมือเอง สามารถทำได้ง่ายกว่า เมื่อเทียบกับการส่งสมาชิกของกลุ่มจากซีเรียเดินทางไปประเทศจุดหมาย ซึ่งมีความเสี่ยงสูงที่จะถูกจับกุมหรือถูกสกัดทำให้เดินทางไปไม่ถึงประเทศเป้าหมาย นอกจากนี้ การลงมือโจมตีในเมืองใหญ่ๆ ของโลกอย่างกรุงวอชิงตัน ดีซี หรือกรุงโรม จะได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนและสังคมมากกว่าการโจมตีในพื้นที่สู้รบอย่างอิรักและซีเรีย

 

ขณะที่สถาบันเพื่อเศรษฐกิจและสันติภาพได้ทำรายงานเรื่องการก่อการร้ายทั่วโลก พบว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตจากการก่อการร้ายในปี 2557 เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า คือปี 2556 ถึงร้อยละ 80 โดยปี 2557 เสียชีวิต 32,658 คน เพิ่มขึ้นจากปี 2556 ที่เสียชีวิต 18,111 คน ซึ่งมากกว่าครึ่งหนึ่งของการก่อการร้ายเป็นฝีมือของกลุ่มโบโกฮาราม, ไอเอส ส่วนประเทศที่มีผู้เสียชีวิตจากการก่อการร้ายมากที่สุด คืออัฟกานิสถาน, อิรัก, ไนจีเรีย, ปากีสถาน และซีเรีย