มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคเร่งผลักดันกฎหมายความปลอดภัยรถตู้

มูลนิธิคุ้มครองผู้บริโภค พยายามหาแนวทางให้ผู้บริโภคได้รับสิทธิคุ้มครองและเยียวยาอย่างเป็นธรรม เนื่องจากอุบัติเหตุรถตู้โดยสารสาธารณะที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้น

อุบัติเหตุรถกระบะชนรถตู้โดยสาร สายกรุงเทพฯ-ด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นอุบัติเหตุรถตู้โดยสารสาธารณะครั้งที่ 5 ที่นำเสนอข่าวในรอบ 1 เดือนที่ผ่านมา แต่สถิติอุบัติเหตุรถตู้โดยสาร ตั้งแต่ปี 2552 จนถึงขณะนี้ ยังพบว่ามีจำนวนเพิ่มมากขึ้น มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคจึงเรียกร้องให้มีข้อบังคับ หรือกฎหมาย ให้รถตู้โดยสารติดตั้งเข็มขัดนิรภัย รณรงค์ให้ผู้โดยสารคาดเข็มขัดนิรภัย รวมทั้งควรเพิ่มมาตรฐานความปลอดภัยของรถตู้สาธารณะ เพราะอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่เกิดจากปัญหาพนักงานขับรถใช้ความเร็วเกินกำหนด มีอาการหลับใน ไม่มีใบอนุญาตขับขี่รถโดยสารสาธารณะ และไม่มีความชำนาญเส้นทาง

ด้าน น.ส.สวนีย์ ฉ่ำเฉลียว เจ้าหน้าที่มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เตรียมทำโครงการตรวจสอบความปลอดภัยของรถโดยสารสาธารณะทั่วประเทศ และผลักดันให้มีกฎหมายมาตรฐานความปลอดภัย เพื่อกระตุ้นให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับผิดชอบความเสียหายจากอุบัติเหตุ

ขณะที่กรมการขนส่งทางบกวางแนวทางกำกับดูแลมาตรฐานความปลอดภัยของรถโดยสารในปัจจุบัน โดยรถตู้โดยสารประจำทางต้องติดตั้งเข็มขัดนิรภัย มีผลบังคับใช้ 1 เมษายนนี้ ส่วนการจ่ายเงินชดเชยจากอุบัติเหตุรถโดยสารสาธารณะตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ.2535 ถ้ามีผู้เสียชีวิต จะจ่ายให้ 200,000 บาท และถ้ารถสาธารณะคันนั้นมีประกันภาคสมัครใจ บุคคลในอุปการะจะได้รับเงินเพิ่มอีก 300,000 บาท รวมเป็น 500,000 บาท แต่ถ้าไม่มีบุคคลในอุปการะ จะได้เงินประกัน 100,00 บาท รวมเป็น 300,000 บาท กรณีบาดเจ็บจะได้รับเงินรักษาพยาบาลตามที่จ่ายจริงไม่เกิน 50,000 บาท หากเกินให้ใช้สิทธิประกันที่บุคคลนั้นมี ส่วนการพักรักษาที่โรงพยาบาล ค่ารักษาจะได้วันละไม่เกิน 200 บาท ไม่เกิน 20 วัน ขณะที่ญาติหรือผู้ได้รับบาดเจ็บ มีสิทธิ์ที่จะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายเพิ่มได้