วันนี้ครบกำหนดหยุดใช้ความรุนแรงในซีเรีย ตามแผนสันติภาพของ 
รัฐบาลซีเรียภายใต้การนำของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล อัสซาดประกาศรับว่า วันนี้ (10เม.ย.) จะปฏิบัติตามกำหนดเส้นตายแผนสันติภาพของนายโคฟี อันนัน ทูตพิเศษสหประชาชาติที่ได้รับการแต่งตั้งให้มายุติความรุนแรงในซีเรีย ซึ่งดำเนินมากว่า 1 ปีจนทำให้มีผู้เสียชีวิตไปนับหมื่นคน
อย่างไรก็ตามเพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนถึงเส้นตายดังกล่าว กลับปรากฏว่า กองกำลังของฝ่ายรัฐบาลซีเรียได้โหมการโจมตีฝ่ายผู้ประท้วงอย่างรุนแรงชาวซีเรียที่พยายามหนีข้ามพรมแดนไปยังตุรกีถูกดักฆ่า หรือ ยิงปืนไล่หลัง นอกจากนี้ยังมีกระสุนปืนจากฝั่งซีเรียข้ามพรมแดนเข้าไปยังค่ายผู้ลี้ภัยชาวซีเรียในฝั่งตุรกี รวมทั้งช่างภาพสื่อมวลชนชาวเลบานอนคนหนึ่งได้ถูกกระสุนปืนเสียชีวิตขณะกำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ในฝั่งเลบานอน
รัฐบาลซีเรียยัง คงยืนกรานว่า เหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นทั้งหมด รวมทั้งการมุ่งทำร้ายพลเรือนนั้นเป็นฝีมือของกลุ่มผู้ก่อการร้ายติดอาวุธ โดยก่อนหน้านี้ไม่กี่ชั่วโมงรัฐบาลซีเรียเรียกร้องให้นายอันนันนำซาอุดิอาระเบีย กาตาร์ และ ตุรกี มาทำสัญญายืนยันเป็นลายลักษณ์อักษรว่า เมื่อรัฐบาลซีเรียถอนทหารและอาวุธหนักออกจากทุกชุมชนทั่วประเทศแล้ว ทั้ง 3 ประเทศนี้จะไม่ฉวยจังหวะช่วงสูญญากาศทุ่มการอัดฉีดความช่วยเหลือมาให้กองกำลังฝ่ายต่อต้าน
ผู้สันทัดกรณีบางคน เชื่อว่า ประธานาธิบดีบาชาร์จะไม่ปฏิบัติตามแผนสันติภาพ ส่วนที่ได้รับปากเอาไว้เพราะแรงกดดันจากรัสเซีย โดยสาเหตุเพราะข้อ 6 ซึ่งเป็นข้อสุดท้ายของแผนสันติภาพดังกล่าวกำหนดว่า เจ้าหน้าที่รัฐบาลซีเรียจะต้องเคารพการชุมนุมและการแสดงออกโดยสงบของประชาชน ซึ่งนั่นหมายความว่า จะมีชาวซีเรียจำนวนมากหลั่งไหลออกมาเรียกร้องให้ล้มล้างรัฐบาลภายใต้การนำของประธานาธิบดีบาชาร์