ศาลปกครองพิพากษาให้ กทม.ชดใช้ค่าเสียหาย เหยื่อ
แม้เหตุการณ์เพลิงไหม้ซานติก้าผับจะผ่านมากว่า 3 ปี แต่การชดใช้และช่วยเหลือทางคดีกับเหยื่อและครอบครัวผู้เสียชีวิตในการฟ้องร้องบางกรณียังอยู่ระหว่างรอคำสั่ง และวันนี้ ( 18 พ.ค.) คดีที่ผู้เสียหายฟ้องต่อศาลปกครอง เรียกค่าเสียหายและกับเจ้าหน้าที่รัฐโดยเฉพาะกรุงเทพมหานครที่ปล่อยปละละเลยในการควบคุมอาคารให้ กทม.จนเกิดเพลิงใหม้ ศาลได้มีคำพิพากษาให้ กทม.ชดใช้ค่าเสียหาย
ญาติและผู้เสียหายที่เป็นผู้ฟ้องคดีกับศาลปกครองกลาง ทยอยเข้าฟังคำพิพากษา ซึ่งในวันนี้ ( 18 พ.ค.) ศาลนัดฟังคำพิพากษา 5 สำนวน คือ สำนวนที่นายหนูสิน แสนเมืองชิน ฟ้องว่ากรุงเทพมหานคร เป็นจำเลยที่ 1 กับพวกรวม 2 คน ละเลยปล่อยให้มีการเปิดสถานบันเทิง ซานติก้าผับ ทั้งที่สถานที่ดังกล่าวดำเนินการโดยไม่ชอบตามกฎหมายว่า ด้วยการควบคุมอาคาร เป็นเหตุให้เกิดเพลิงไหม้และทำให้บุตรผู้ฟ้องเสียชีวิต โดยขอให้ชดใช้ค่าเสียหาย จำนวน 600,000 บาท เช่นเดียวกับนายประเสริฐ คุ้มผล ที่ฟ้องในข้อหาเดียวกันและเรียกค่าเสียหาย 600,000 บาท
นอกจากนี้ยังมีนางวรรณา ซำคง นางแปลก บัวมาก และ นางมณี หวังทวีวงศ์ ที่ร่วมกันฟ้อง กรุงเทพมหานคร ให้ชดใช้ค่าเสียหายจากการละเลยของเจ้าหน้าที่ เนื่องจากไม่ตรวจสอบการก่อสร้างและต่อเติมอาคารจนทำให้เกิดเพลิงไหม้จนมีผู้เสียชีวิต
ซึ่งหลังศาลปกครองกลางพิจารณาแล้วมีคำพิพากษาดังนี้ให้กรุงเทพมหานครชดใช้จ่ายเงินชดเชยให้กับผู้ฟ้อง กรณีที่1 นายหนูสิน ให้ กรุงเทพมหานครชดใช้เงิน จำนวน 139,600 บาท, นายประเสริฐ 212,000 บาท, นางวรรณา 140,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย ร้อยละ 7.5 ต่อปี โดยนับเริ่มดอกเบี้ยตั้งแต่วันที่ 30 ธ.ค.ปี 2552 ส่วน นางแปลก บัวมาก 140,000 บาทพร้อมดอกเบี้ย, นางมณี 164,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย โดยให้กรุงเทพมหานครต้องจ่ายเงินให้ผู้ฟ้องภายใน 30 วันนับตั้งแต่คดีสิ้นสุด
สำหรับเหตุเพลิงไหม้ซานติก้าผับ เกิดขึ้นระหว่างวันที่ 31 ธันวาคม 2551 ต่อเนื่องถึงวันที่ 1 มกราคม 2552 ทำให้มีผู้เสียชีวิต 61 คน บาดเจ็บอีก 225 คน
