ศาลจังหวัดภูเขียวตัดสินคดีรุกที่เขตป่าสงวนฯภูซำผักหนาม
ผู้ไร้ที่ทำกินที่เข้าทำประโยชน์ในสวนป่าโคกยาว เขตป่าสงวนแห่งชาติภูซำผักหนาม ตำบลทุ่งลุยลาย อำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ เข้าให้กำลังใจนายคำบาง และนางสำเนียง กองทุย 2 สามีภรรยา ที่ศาลจังหวัดภูเขียวนัดฟังคำพิพากษา ในคดีที่เจ้าหน้าที่ป้องรักษาป่าที่ ชย.4 คอนสาร เป็นโจทก์ยื่นฟ้องในข้อหาบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติภูซำผักหนาม หลังนำกำลังกว่า 200 นาย เข้าจับกุมชาวบ้านจำนวน 10 คน เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม ปีที่ผ่านมา
โดยศาลชั้นต้น จังหวัดภูเขียว พิพากษาให้จำเลยทั้ง 2 คนมีความผิดตาม พระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ ปี 2507 และพระราชบัญญัติป่าไม้ ปี 2484 โดยให้จำคุก 6 เดือน แต่คำรับสารภาพในชั้นสอบสวน และคำเบิกความในชั้นพิจารณาเป็นประโยชน์ จึงให้ลดโทษคนละ 1 ใน 3 เหลือจำคุก 4 เดือน พร้อมให้จำเลยทั้ง 2 คนออกจากเขตป่าสงวนแห่งชาติฯ ซึ่งหลังจากถูกพิพากษาคดี ชาวบ้านได้รวบรวมเงินที่ได้จากการจำนองที่ดินประกันตัวทั้ง 2 คนคนละ 100,000 บาท เพื่อออกมาสู้คดีในชั้นอุทธรณ์
ขณะที่ในวันที่ 25 พฤษภาคมนี้ ศาลได้นัดสืบพยานจำเลย นายเด่น คำแหล้ พร้อมพวกอีก 4 คน หลังจากที่ศาลได้นัดสืบพยาน นายสนาม จุลละนันท์ ในวันนี้ และจะนัดฟังคำพิพากษานายทอง และนายสมปอง กุลหงส์ ในวันที่ 13 มิถุนายนนี้
ป่าโคกยาวถูกประกาศเป็นเขตป่าสงวนแห่งชาติภูซำผักหนามเมื่อปี 2516 ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 290,000 ไร่ และมีโครงการปลูกสวนป่า ทดแทนพื้นที่สัมปทาน ด้วยการนำไม้ยูคาลิปตัสมาปลูกในพื้นที่ ปี 2528 ก่อนที่มติ ครม.ปี 2553 จะเห็นชอบให้ชาวบ้านสามารถเข้าทำประโยชน์ในสวนป่ายูคาลิปตัสได้โดยไม่มีการข่มขู่ กักขัง และดำเนินคดีในช่วงที่กำลังแก้ไขปัญหา แต่ในปีต่อมาชาวบ้านกลับถูกเจ้าหน้าที่ป่าไม้สนธิกำลังเข้าปิดล้อมจับกุม