ปธ.วิปรัฐบาลยืนยันการประชุมสภา 8 มิ.ย.นี้ไม่มีวาระร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง
นายอุดมเดช รัตนเสถียร ประธานวิปรัฐบาล ยืนยันว่าการประชุมรัฐสภาในวันที่ 8 มิ.ย.จะเป็นการเปิดประชุมเพื่อพิจารณากรอบหนังสือ หรือข้อตกลงระหว่างประเทศตามมาตรา 190 ของรัฐธรรมนูญเท่านั้น โดยปฏิเสธที่จะพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ จะมีก็แต่กรณีที่ประธานรัฐสภา ต้องแจ้งเรื่องคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ ให้สมาชิกรัฐสภารับทราบเท่านั้น และหากจะเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎร ก็จะพิจารณาร่างกฎหมายสำคัญที่ค้างอยู่ โดยไม่มีวาระที่จะพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติ
ด้านนายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ เปิดแถลงข่าวเมื่อบ่ายที่ผ่านมาว่ายืนยันที่จะทำหน้าที่โดยปราศจากแรงกดดันจากฝ่ายใด พร้อมกล่าวย้ำในอำนาจหน้าที่ โดยเฉพาะอำนาจการสั่งการให้รัฐสภาชะลอการลงมติเห็นชอบร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 ด้วยเหตุอันเป็นประโยชน์แห่งการพิจารณาคำร้อง เช่นเดียวกับกระบวนการรับคำร้องตามมาตรา 68 เป็นไปตามข้อบัญญัติของรัฐธรรมนูญทุกประการ
ขณะที่ นายพิฑูร พุ่มหิรัญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร แถลงเปิดเผยถึงการทำหนังสือเสนอความเห็นต่อประธานรัฐสภาเพื่อเดินหน้ากระบวนการพิจารณาร่างแก้รัฐธรรมนูญให้แล้วเสร็จ รวม 6 ข้อเสนอด้วยกัน แต่สาระสำคัญ คือการเสนอให้เปิดประชุมรัฐสภา เพื่อพิจารณาลงมติวาระ 3 ได้ เนื่องจากรัฐธรรมนูญ มาตรา 3 แบ่งอำนาจตามระบอบประชาธิปไตยออกเป็น 3 ฝ่าย หากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดต้องผูกพันกันต้องบัญญัติในรัฐธรรมนูญ ขณะที่มาตรา 216 ระบุให้ผลของการผูกพัน ต้องเป็นคำวินิจฉัยที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ส่วนมาตรา 68 และ มาตรา 213 ระบุว่าการคุ้มครองชั่วคราว ต้องเป็นหน่วยงานของรัฐ แต่รัฐสภา ถือเป็นฝ่ายนิติบัญญัติ ขณะเดียวกันมาตรา 291 และมาตรา 122 กำหนดให้การแก้รัฐธรรมนูญเป็นอำนาจของรัฐสภา และการพิจารณาต้องปราศจากการครอบงำใด ดังนั้นคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญ จึงเป็นคำสั่งต่อ สำนักเลขาธิการสภาฯ ไม่ใช่ ประธานรัฐสภา ที่สืบเนื่องไปถึงงานฝ่ายนิติบัญญัติ