วันนี้ อสส. นัดหารือกรณีศาลรัฐธรรมนูญชะลอร่างแก้ไขรธน.

อสส.นัดประชุมหารือคำสั่งศาลรธน. และการสั่งชะลอร่างฯ ขณะที่ นปช.เตรียมยื่นหนังสือถอดถอนตุลาการ ด้าน คอป.ชี้ ศาลรัฐธรรมนูญควรใช้หลักนิติธรรมในการวินิจฉัยข้อเท็จจริง

ในวันนี้ (7 มิ.ย.) คณะกรรมการอัยการสูงสุด (อสส.)นัดประชุมหารือประเด็นคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญรับวินิจฉัย และ สั่งชะลอการพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ขณะที่ แนวร่วมประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (นปช.) เตรียมยื่นหนังสือต่อประธานรัฐสภา เพื่อแสดงเจตนารมณ์รวบรวมรายชื่อประชาชน เข้าชื่อถอดถอนคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ แม้ประธานศาลรัฐธรรมนูญจะแถลงยืนยันในอำนาจหน้าที่ที่สามารถดำเนินการได้ไปแล้ว

นายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ยืนยันที่จะทำหน้าที่โดยปราศจากแรงกดดันจากฝ่ายใด พร้อมทั้งย้ำอำนาจหน้าที่ การสั่งการให้รัฐสภาชะลอการลงมติเห็นชอบร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 ด้วยเหตุอันเป็นประโยชน์แห่งการพิจารณาคำร้อง เช่นเดียวกับกระบวนการรับคำร้องตามมาตรา 68 เป็นไปตามข้อบัญญัติของรัฐธรรมนูญทุกประการ

ด้านนายคณิต ณ นคร ประธานคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.) มีจดหมายเปิดผนึกถึงศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีเนื่อหาขอให้ศาลใช้ความรอบคอบ และระมัดระวังในการวินิจฉัยข้อเท็จจริงแห่งคดี และหลักกฎหมายด้วยความเที่ยงธรรม รวมทั้งการตีความตัวบทกฎหมายอย่างเคร่งครัดตามเจตนารมณ์ เพื่อไม่ให้นำไปสู่ความเสื่อมศรัทธาต่อองค์กรตุลาการ ระบบกฎหมาย และหลักนิติธรรม

ขณะที่ นายพิฑูร พุ่มหิรัญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เสนอความเห็นต่อประธานรัฐสภา ให้เดินหน้ากระบวนการพิจารณาร่างแก้รัฐธรรมนูญให้แล้วเสร็จ รวม 6 ข้อ สาระสำคัญคือเสนอให้เปิดประชุมรัฐสภาเพื่อพิจารณาลงมติ วาระ 3 ได้

นายอุดมเดช รัตนเสถียร ประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่าในวันที่ 8 มิถุนายน จะมีการเปิดประชุมรัฐสภา แต่เเพื่อพิจารณากรอบหนังสือหรือข้อตกลงระหว่างประเทศ ตามมาตรา 190 ของรัฐธรรมนูญเท่านั้น
 
ตามรายงานพบว่าวันนี้(7 มิ.ย.) จะมีความเคลื่อนไหวของกลุ่มนปช. ที่หน้ารัฐสภา โดยนางธิดา ถาวรเศรษฐ์ แกนนำนปช. ระบุว่า อาจมีการปักหลักชุมนุมต่อเนื่อง เพื่อแสดงพลังมวลชนที่คัดค้านการทำหน้าที่ของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ยืนยันไม่มีการเผชิญหน้าของกลุ่มผู้ชุมนุมที่เห็นต่างกัน เพราะจุดหมายการชุมนุมต่างกันสอดคล้องกับที่แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยยืนยันยังไม่นัดชุมนุมเคลื่อนไหวใหญ่ในขณะนี้ ซึ่งเงื่อนไขของพันธมิตรฯ มี 3 กรณีคือ การตรากฎหมายเพื่อลดอำนาจของสถาบัน  การตรากฎหมายเพื่อลบล้างความผิดให้กับพันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และ การพิจารณาร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติ