ออง ซาน ซูจี กล่าวสุนทรพจน์ต่อรัฐสภาอังกฤษ

นางออง ซาน ซูจี สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับพม่า หลังได้รับเกียรติให้กล่าวสุนทรพจน์ต่อสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาของอังกฤษ ซึ่งเธอก็เป็นบุคคลแรกที่ไม่ใช่ประมุขรัฐและเป็นชาวเอเชียคนแรกที่ได้รับเกียรตินี้

นางออง ซาน ซูจี ได้รับเกียรติให้กล่าวสุนทรพจน์ต่อรัฐสภาอังกฤษ ซึ่งเธอก็เป็นสตรีคนที่ 2 รองจากสมเด็จพระราชินีอลิซาเบธที่ 2 ที่มีโอกาสได้กล่าวสุนพจน์ต่อสภาของอังกฤษทั้งสองสภา นอกจากนี้ นางซูจียังเป็นบุคคลแรกที่ไม่ใช่ประมุขรัฐ เป็นสตรีต่างชาติ และชาวเอเชียคนแรกที่ได้รับเกียรตินี้ โดยเธอได้กล่าวเรียกร้องให้อังกฤษช่วยผลักดันพม่าไปสู่ระบอบประชาธิปไตย นอกจากนี้ ยังขอให้อังกฤษ และพันธมิตรช่วยสอดส่องสังเกตการณ์เพื่อสร้างความมั่นใจว่ารัฐบาลพลเรือนของพม่าจะเดินหน้าปฏิรูปประเทศตามคำมั่นที่ให้ไว้ ซึ่งคำกล่าวของนางซูจี ทำให้สมาชิกสภาของอังกฤษต้องลุกขึ้นยืนปรบมือเพื่อเป็นเกียรติแก่เธอ

สำหรับบุคคลสำคัญคนอื่นๆ ที่เคยได้รับเกียรติให้กล่าวสุนทรพจน์ต่อรัฐสภาอังกฤษภายในมหาวิหารเวสต์มินเตอร์ได้แก่ อดีตประธานาธิบดีเนลสัน แมนเดล่า รัฐบุรุษของแอฟริกาใต้ สมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 องค์ประมุขของคริสจักรนิกายโรมันคาทอลิค และประธานาธิบดีบารัค โอบาม่า ผู้นำสหรัฐ

ก่อนหน้านี้ นางซูจีได้เข้าเฝ้าเจ้าฟ้าชายชาร์ลสองค์มกุฏราชกุมารของอังกฤษ และดัชเชสแห่งคอร์นวอลล์ พระชายาที่พระตำหนักแคลเรนช์ โดยเธอได้ร่วมพิธีปลูกต้นไม้ที่พระตำหนัก นอกจากนี้ เจ้าฟ้าชายชาร์ลสยังพานางซูจีไปชมต้นไม้ที่องค์ดาไล ลามะ ผู้นำทางจิตวิญญานของทิเบตทำพิธีปลูกไว้เมื่อปี พ.ศ. 2551

จากนั้นนางซูจีได้เดินทางไปเข้าพบนายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีอังกฤษที่บ้านพักนายกรัฐมนตรี และได้แถลงข่าวร่วมกัน โดยเธอคาดหวังว่าที่จะเห็นสังคมประชาธิปไตยที่แท้จริงในพม่า และขอให้นักลงทุน และประเทศต่างๆ ช่วยให้พม่าหลุดล้นจากการถูกโดดเดี่ยว เธอยังต้องการเห็นอนาคตของพม่าอยู่ในมือของประชาชนไม่ใช่ของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง

ขณะที่นายคาเมรอน กล่าวว่า ได้เชิญ พล.อ.เต็งเส่ง ประธานาธิบดีพม่าเดินทางเยือนอังกฤษในปีนี้ นอกจากนี้ ยังระบุว่าจะสนับสนุนพม่าต่อไป และมีแผนจะเปิดสำนักงานในกรุงเนปิดอว์ อย่างไรก็ตาม นายเคเมรอนเตือนว่าพม่าจะต้องเผชิญกับความยากลำบากอีกยาวไกล