ภาคอุตสาหกรรมย้ายหนีน้ำท่วมไปภาคอีสาน คาดสิ้นปีนี้ยอดลงทุนพุ่ง 50,000 ล้านบาท
ปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ภาคกลางปลายปีที่แล้ว (2554) ทำให้โรงงานบางแห่ง รวมถึงนักลงทุนบางราย ปรับแผนย้ายฐานไปลงทุนในพื้นที่อื่นที่มีความเสี่ยงน้อย เช่น ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมากขึ้น สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ ระบุว่า 5 เดือนแรกของปีนี้อัตราการลงทุนเพิ่มถึงเท่าตัว
ป้ายประกาศรับสมัครงานของโรงงานอุตสาหกรรมหลายแห่งมีให้เห็นตลอดริมถนนมิตรภาพรวมทั้งเขตประกอบการอุตสาหกรรมในจังหวัดนครราชสีมา สะท้อนการขยายตัวของโรงงานอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะ อ.สีคิ้ว อ.สูงเนิน อ.ปักธงชัย ที่มีนักลงทุนสนใจซื้อที่ดินเพื่อตั้งโรงงาน ทั้งนี้ อุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา เผยข้อมูลว่าเดือนพฤษภาคม 2555 มีโรงงานกว่า 2,500 โรงงานเพิ่มขึ้น 100 โรงงาน หรือ ร้อยละ 0.04 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว (2554)
เขตประกอบการอุตสาหกรรมนวนคร หนึ่งในเขตอุตสาหกรรมสำคัญในจังหวัดนครราชสีมา มีการลงทุนเพิ่มขึ้นร้อยละ 30 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยนักลงทุนต่างชาติ เช่น ญี่ปุ่น สิงคโปร์ ทั้งรายเก่าและรายใหม่ก็ขยายการลงทุนเพิ่มเติมเนื่องจากมีปัจจัยที่เอื้ออำนวยหลายอย่างทั้งทำเลที่ดี การคมนาคมสะดวก
โดยการขนส่งสินค้าจากจังหวัดนครราชสีมาไปท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี ใช้เวลาประมาณเพียง 3 ชั่วโมงจึงมีการตัดสินใจขยายการลงทุนที่นวนครที่ดินว่างเปล่าในเขตประกอบการอุตสาหกรรมนวนครระยะที่ 2 จึงถูกปรับสภาพพื้นที่เพื่อรองรับการลงทุนจากไทยและต่างชาติจนเกือบเต็มพื้นที่ และกำลังเร่งขยายโครงการในระยะที่ 3 อีกราว 504 ไร่ รองรับการลงทุนที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งการลงทุนในเขตประกอบการอุตสาหกรรมต่าง ๆ ผู้ประกอบการจะได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มขึ้น เช่น การยกเว้นภาษีนิติบุคล 8 ปี
ขณะที่สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ จังหวัดนครราชสีมา ระบุว่า ช่วง 5 เดือนแรก มีการขอรับการสนับสนุนโครงการ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 122 โครงการ สูงกว่าปีที่แล้ว (2554) ถึงเท่าตัว เงินลงทุนเกือบ 40,000 ล้านบาท ซึ่งเฉพาะในจังหวัดนครราชสีมา 5 เดือนแรกของปีนี้ (2555) มีถึง 41 โครงการ เงินลงทุนเกือบ 10,000 ล้านบาท พร้อมคาดว่า สิ้นปีนี้ (2555) จะมีการลงทุนกว่า 50,000 ล้านบาทอุตสาหกรรมที่มีการลงทุนมากที่สุด 5 อันดับ เช่น ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์,คอมพิวเตอร์,ยานยนต์
ขณะที่ นายประพัฒน์ วนาพิทักษ์ อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรมระบุว่า การขยายตัวของโรงงานในภาคอีสานและภาคตะวันออก ทำให้ต้องเพิ่มความเข้มงวดในการออก ใบอนุญาตตั้งโรงงานอุตสาหกรรม พร้อมต้องประเมินว่าการลงทุนของภาคอุตสาหกรรมจะกระทบกับผู้ที่อยู่ในพื้นที่หรือไม่
แม้ว่าแนวโน้มการลงทุนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะขยายตัว แต่ปัญหาที่ที่ผู้ประกอบการเริ่มกังวลมากขึ้น คือขาดแคลนแรงงาน และต้องการให้ภาครัฐผ่อนปรนกฎระเบียบการจ้างแรงงานต่างด้าวในเขตประกอบการที่ได้รับการส่งเสริมจากบีโอไอ ซึ่งหากการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมไม่สอดคล้องกับแรงงาน อาจจะทำให้ภาคการผลิตที่กำลังฟื้นตัวชะลอได้