ตร.อุบลฯจับอีกขบวนการลักลอบขนย้ายข้าวเปลือกกว่า 100 ตันสวมสิทธิ์รับ "จำนำข้าว"

ปัญหาการทุจริตโครงการรับจำนำข้าวที่เกิดขึ้นในปีที่ผ่านมา ทำให้หลายจังหวัดภาคเหนือ เร่งวางมาตรการป้องกันหลังพบโรงสีบางแห่งเปิดรับจำนำข้าวทั้งที่ยังไม่ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติ ส่วนการลักลอบเคลื่อนย้ายข้าวเปลือกยังเกิดขึ้นในหลายพื้นที่ ล่าสุดตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานีจับผู้กระทำความผิดได้อีก

รถบรรทุกข้าวเปลือกน้ำหนักกว่า 100 ตัน ที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรห้วยขะยูง อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี ตรวจยึดได้ บริเวณจุดตรวจถนนห้วยขะยุง -ศรีสะเกษ ขณะกำลังขนย้ายข้าวเปลือกจากจังหวัดศรีสะเกษเพื่อนำส่งโรงสีแหลมทอง จำกัด อำเภอวารินชำราบ เมื่อตรวจสอบไม่พบใบอนุญาตบรรทุกข้าวข้ามเขต

การตรวจจับครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 3 ในรอบสัปดาห์ที่เจ้าหน้าที่ยึดรถที่ไม่มีใบอนุญาตบรรทุกข้าวเปลือกเข้ามาในจังหวัดอุบลราชธานี จึงกำชับให้การค้าภายในเร่งตรวจสอบโรงสีที่ถูกแอบอ้าง เพื่อตรวจสอบจำนวนข้าวเปลือกว่ามีจำนวนตรงตามบัญชีที่แจ้งไว้หรือไม่ เพื่อป้องกันการนำข้าวเข้ามาสวมสิทธิ์

เช่นเดียวกับจังหวัดสระแก้วจับนายอนุชา นาถชาติ และนายพิชัย พวบเชื้อ ชาวจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมยึดรถบรรทุกข้าวเปลือก รวมน้ำหนัก 30 ตัน เนื่องจากพบเอกสารการขนย้ายข้าวปลอม เบื้องต้นกรมการค้าภายในจังหวัดสระแก้วได้เข้าตรวจสอบข้าวเปลือกดังกล่าว พร้อมระบุว่า ที่ผ่านมามีข้าวจากจังหวัดบุรีรัมย์เข้ามาในพื้นที่หลายครั้ง จึงตั้งข้อสังเกตว่าข้าวดังกล่าวอาจมีการลักลอบนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้านหรือไม่

ส่วนโรงสีในจังหวัดฉะเชิงเทราที่ผู้ต้องหาอ้างว่าจะนำข้าวไปส่งนั้น จากการตรวจสอบพบว่า โรงสีดังกล่าวไม่มีชื่อร่วมโครงการรับจำนำข้าวกับรัฐบาล

ขณะที่ภาคเหนือหลายจังหวัดเร่งหามาตรการป้องกันการทุจริตโครงการรับจำนำข้าว เช่นที่จังหวัดเชียงใหม่ และพิษณุโลก มีการประชุมร่วมกันเพื่อกำหนดแนวทางการรับจำนำข้าว โดยกำชับให้เพิ่มความเข้มงวดตามจุดรับจำนำ เพื่อป้องกันการนำข้าวเข้ามาสวมสิทธิ์

สำหรับโครงการรับจำนำข้าวเปลือกปีการผลิต2555/2556 จังหวัดพิษณุโลก ตั้งแต่เปิดบริการวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมามีชาวนานำข้าวเข้าร่วมโครงการแล้ว 143,000 ตัน พบโรงสีบางแห่งมีความผิดปกติ เปิดรับจำนำและออกใบประทวนให้เกษตรกร ทั้งที่ยังไม่ได้เข้าร่วมโครงการ ซึ่งอยู่ระหว่างตรวจสอบดำเนินคดี