ถอดรหัสเหตุรุนแรงภาคใต้ บ่งชี้กลุ่มก่อความไม่สงบพัฒนารูปแบบการก่อเหตุ
สิ้นเสียงระเบิดรถไฟ ที่ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 1 คน และบาดเจ็บมากกว่า 20 คนเมื่อวานนี้ ( 18 พ.ย.) ความไม่เชื่อมั่นเกิดขึ้นกับผู้ใช้บริการทันที แม้ว่าเจ้าหน้าที่จะเพิ่มกำลังดูแลบนรถไฟมากถึง 8 นาย และประจำสถานีรถไฟอีกไม่ต่ำกว่า 4 นาย รวมถึงใช้กำลังลาดตะเวนเส้นทางก่อนปล่อยขบวนรถ
สาเหตุที่โบกี้รถไฟเสียหายจำนวนมากจากเหตุระเบิด เพราะนอกจากเหล็กเส้น และปุ๋ยยูเรียที่ใช้เป็นสารตั้งต้นในการผลิตระเบิดแล้ว ถังน้ำมันที่ถูกมัดรวมกับระเบิด เป็น 1 ในพัฒนาการเพื่อเพิ่มอนุภาพของระเบิด และไฟที่ลุกไหม้ยังสามารถทำลายหลักฐานในที่เกิดเหตุได้
ความเสียหายกับสินค้าซึ่งส่วนใหญ่ เป็นวัสดุก่อสร้างของร้านชัยเจริญ อ.เมือง จ.ยะลา อาจต้องใช้เวลาอีกไม่ต่ำกว่า 1 สัปดาห์ จึงสามารถเก็บกวาดข้าวของได้ทั้งหมด แต่โครงสร้างของอาคารที่ทำด้วยไม้ อาจต้องทุบทิ้ง เป็นความเสียหายจากเพลิงไหม้ที่เกิดจากการน้ำมัน ซึ่งผูกติดกับระเบิด โดยแนวร่วมจะเลือกเป้าหมายเป็นบ้านไม้ หรือ เป็นสถานประกอบการที่จำหน่ายสินค้า ซึ่งง่ายต่อการเกิดเพลิงไหม้ ทำให้พื้นที่เสี่ยงที่มีเป้าหมายในลักษณะนี้ต้องเฝ้าระวังมากขึ้น
จากข้อมูลของเจ้าหน้าที่พบว่า การพัฒนาของการก่อเหตุในลักษณะนี้ ถูกนำมาใช้หลายครั้ง ทั้งเหตุระเบิดกลางเมืองยะลาเมื่อ 2 วันก่อน เหตุระเบิดรถไฟที่ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เมื่อวานนี้ ( 18 พ.ย.) เหตุระเบิดใจกลางเมืองสายบุรี จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 20 ก.ย.เหตุระเบิดร้านของชำที่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 30 ต.ค. และเหตุระเบิดรถพนักงานมีสทีน จ.ยะลา เมื่อวันที่ 18 ส.ค.จึงมีความเป็นไปได้ว่า ที่มาของระเบิดอาจมากจากพื้นที่ หรือกลุ่มบุคคลซึ่งผลิตในแหล่งเดียวกัน ทำให้ภาพการสอบสวนเพื่อเชื่อมโยงคดี ทำได้ง่ายขึ้น