ศิลปินสหรัฐฯรวมตัวในคอนเสิร์ตซับน้ำตาเหยื่อพายุแซนดี้

Logo Thai PBS
ศิลปินสหรัฐฯรวมตัวในคอนเสิร์ตซับน้ำตาเหยื่อพายุแซนดี้

หลายคนเลือกที่จะทำกิจกรรมพิเศษในวัน12 ธันวาคมที่ผ่านมา แต่ที่สหรัฐฯศิลปินกลุ่มหนึ่งมารวมตัวกันในคอนเสิร์ตการกุศล เพื่อหารายได้เยียวยาชาวนิวยอร์ก และนิวเจอร์ซีผู้ประสบภัยจากพายุแซนดี้ ซึ่งสร้างความเสียหายต่อชีวิต และทรัพย์สินกว่า 50,000 ล้านดอลลาร์

พอล แม็คคาร์ทนีย์ อดีตสมาชิกของ The Beatles ตำนานเพลงยุค 60 ขึ้นเวทีแสดงร่วมกับสมาชิก 3 คน ของ Nirvana ที่เหลืออยู่ เพื่อทำหน้าแทน เคิร์ท โคเบน อดีตสมาชิกของวงผู้ล่วงลับ ในการแสดงเพลง Cut Me Some Slack เพลงใหม่ของ เดฟ โกรห์ล มือกลองของวง เป็นโชว์ที่แฟนเพลงทั่วโลกตั้งตารอในงาน 12-12-12: The Concert for Sandy Relief คอนเสิร์ตการกุศลเพื่อระดมทุนช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากพายุแซนดี้ที่พัดถล่มนิวยอร์ก และนิวเจอร์ซีเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 125 คน และบ้านพักเสียหายกว่า 300,000 หลัง

เนื่องจากอาศัยอยู่ในบริเวณประสบภัยโดยตรง ศิลปิน และคนดังจากนิวยอร์ก และนิวเจอร์ซีจึงมาร่วมงานกันอย่างคับคั่ง ทั้งชาวนิวยอร์กอย่าง บิลลี โจล และ อลิเซีย คีส์ รวมถึงร็อกเกอร์รุ่นใหญ่ บรูซ สปริงสทีน และ จอน บอง โจวี ตัวแทนจากนิวเจอร์ซี ซึ่งมาแสดงร่วมกันในเพลงปลุกใจ Born to Run โดยสปริงสทีนตอบแทนด้วยการขึ้นแสดงร่วมกับวง Bon Jovi ในบทเพลงให้กำลังใจ Who Says You Can't Go Home

ในงานยังมีดาวตลก และพิธีกรมากมายมาช่วยเรี่ยรายเงินบริจาค เช่น บิลลี คริสตอล ซึ่งเหน็บแนมความล่าช้าของการไฟฟ้านิวยอร์กที่ปล่อยให้ไฟดับนานนับสัปดาห์ และ เบน สติลเลอร์ มาเปิดใจประสบการณ์ที่ต้องอยู่ในย่านไฟดับในนิวยอร์ก แต่โชคดีกว่าเพื่อนบ้านอีกละแวกที่เจอกับน้ำท่วม และบ้านเรือนเสียหายเพราะแซนดี้

ศิลปินอังกฤษผู้ขึ้นชื่อเรื่องการร่วมคอนเสิร์ตการกุศล มาร่วมงานนี้ด้วยอย่างคับคั่ง ได้แก่ เอริค แคลปตัน, โรเจอร์ วอเตอร์, คริส มาร์ติน, The Who และ Rolling Stones ซึ่งมาร่วมแสดงขณะที่กำลังทัวร์คอนเสิร์ตในสหรัฐฯเพราะได้รับผลกระทบจากแซนดี้โดยตรง

คอนเสิร์ตระดมทุนที่จัดขึ้นที่ Madison Square Garden ครั้งนี้ มีการถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์ในสหรัฐฯ 37 ช่อง และถ่ายทอดไปทั่วโลกกว่า 200 สถานี รวมถึงเผยแพร่ผ่านอินเทอร์เน็ตใน 30 เว็บไซต์ และโรงภาพยนตร์หลายสิบแห่งในสหรัฐฯ คาดว่าจะมีผู้ชมทั่วโลกกว่า 2,000 ล้านคน โดยรายได้จากการจำหน่ายบัตรไม่รวมเงินบริจาคมีจำนวนถึง 30 ล้านดอลลาร์


ข่าวที่เกี่ยวข้อง