ผู้บริหาร ส.ส.ท.แถลงน้อมรับคำ
แถลงการณ์คณะผู้บริหารไทยพีบีเอส ภายหลังเข้าชี้แจงต่อ กสทช. และร่วมวงเสวนาวิชาการ ประเด็น "ตอบโจทย์ฯ" ที่จุฬาลงกรณ์ฯ และมีผู้ชมส่วนหนึ่ง ร่วมกลุ่มมายื่นหนังสือ คัดค้านรายการดังกล่าว
ในช่วงเย็น วันที่ 20 มีนาคม 2556 คณะผู้บริหาร องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย ออกแถลงการณ์ระบุว่า ตามที่กลุ่มประชาชนทนไม่ไหว และเครือข่ายพลเมืองอาสาปกป้องแผ่นดิน มีข้อเรียกร้องเกี่ยวกับรายการตอบโจทย์ “สถาบันพระมหากษัตริย์ ภายใต้รัฐธรรมนูญ” ตอนที่ 5 ซึ่งสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส นำรายการดังกล่าวมาออกอากาศในวันจันทร์ที่ 18 มีนาคม 2556 หลังจากเลื่อนมาจากวันศุกร์ที่ 15 มีนาคม 2556 โดยกลุ่มดังกล่าวเห็นว่า ไทยพีบีเอสมิได้นำพากับคำท้วงติงของประชาชนและภาคสังคม ซึ่งอาจหมิ่นเหม่ต่อการกระทำผิดกฎหมาย โดยเรียกร้องให้คณะผู้บริหารรับผิดชอบ พร้อมกับขอโทษสังคมโดยเร็ว และหากไม่เป็นผลจะดำเนินการตามกฏหมายตามกระบวนการยุติธรรมต่อไป นั้น
คณะผู้บริหารขอเรียนชี้แจงว่า สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสมิได้นิ่งนอนใจและเสียใจกับเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้น ขอขอบคุณกลุ่มประชาชนที่เข้ามามีส่วนร่วมในการตรวจสอบการทำงานของไทยพีบีเอสอย่างสร้างสรรค์และปราศจากความรุนแรง สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสมีวัตถุประสงค์และเป้าหมายที่สำคัญคือ มุ่งมั่นที่จะเป็นสถาบันสื่อสาธารณะที่สร้างสรรค์สังคมคุณภาพและคุณธรรม เพื่อประโยชน์สาธารณะอย่างแท้จริง โดยเทิดทูนไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างยั่งยืน เฉกเช่นเดียวกับประชาชนคนไทยทั้งประเทศ
ไทยพีบีเอสในฐานะเป็นสื่อสาธารณะ มีหน้าที่โดยตรงในการเปิดพื้นที่ให้ประชาชนทุกภาคส่วน ได้มีโอกาสร่วมแสดงความคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่อรายการของไทยพีบีเอส ดังนั้น เมื่อมีประชาชนแสดงความคิดเห็นต่อกรณีรายการตอบโจทย์ คณะผู้บริหารพร้อมที่จะน้อมรับและแสดงความรับผิดชอบ โดยจะนำข้อร้องเรียนทุกข้อเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของคณะกรรมการที่มีอำนาจตรวจสอบตามพระราชบัญญัติองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย มาตรา 46 ที่บัญญัติว่า “ให้คณะกรรมการนโยบายจัดให้มีคณะอนุกรรมการรับและพิจารณาเรื่องร้องเรียนจากประชาชนในกรณีที่องค์การ ผู้ผลิตรายการ หรือพนักงาน หรือลูกจ้างขององค์การกระทำการ หรือผลิตรายการ ที่ขัดต่อข้อบังคับด้านจริยธรรมของวิชาชีพ
ทั้งนี้ โดยคณะอนุกรรมการรับและพิจารณาเรื่องร้องเรียนจากประชาชนต้องพิจารณาและตรวจสอบเรื่องร้องเรียนดังกล่าวอย่างรวดเร็ว ถูกต้อง และเป็นธรรม โดยจะครอบคลุมถึงวิธีการแก้ไขหรือเยียวยา ในกรณีที่มีการผลิตรายการที่ขัดต่อข้อบังคับด้านจริยธรรมของวิชาชีพ รวมทั้งมีวิธีการแก้ไขข้อความที่เป็นเท็จ สิทธิการโต้แย้ง และการขออภัยในกรณีที่ผิดพลาด”
คณะอนุกรรมการชุดดังกล่าวประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิสาขาต่าง ๆ ส่วนใหญ่เป็นบุคคลภายนอกทั้งนี้ หากผลวินิจฉัยเป็นประการใด องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย พร้อมที่จะปฏิบัติและรับผิดชอบต่อไป
นอกจากนี้ ยังมีข้อเสนอแนะจากหลายภาคส่วนให้สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส นำเสนอข่าวประเด็นที่มีผลกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ เช่น กรณีการกู้เงิน 2.2 ล้านล้านบาท กรณีการบริหารจัดการพลังงาน และกรณีอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับความไม่เป็นธรรมในสังคม ซึ่งไทยพีบีเอสได้เกาะติดและนำเสนอประเด็นเหล่านี้มาโดยตลอด เนื่องจากเป็นหน้าที่ของสื่อสาธารณะที่จะนำเสนอเรื่องราวเหล่านี้ต่อไป เพื่อมุ่งสร้างสังคมคุณภาพและคุณธรรมตามเจตนารมณ์
