วันนี้ (14 ม.ค.2562) นายภูเวียง ประคำมินทร์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวว่า กรณีที่กรุงเทพมหา นครและปริมณฑล และภาคกลาง มีฝุ่นละอองปกคลุมจนมีค่าเกินมาตรฐานและอยู่ในระดับที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ เป็นอิทธิพลจากความกดอากาศสูง หรืออากาศหนาวเย็นที่เคยปกคลุมอยู่อ่อนลง ทำให้ช่วงจังหวะระยะแรกที่เริ่มอ่อนลงนี้ลมจะนิ่งๆ
ขณะเดียวกันพื้นที่กทม.มีฝุ่นหรือหมอกควันด้วยไม่สามารถระเหยได้ ส่งผลให้มีลักษณะอากาศที่ไม่ค่อยดี ประกอบกับไม่มีลมพัดให้ฝุ่นกระจัดกระจายไป ทั้งนี้คาดว่าระหว่างวันที่ 15-16 ม.ค.นี้ มวลอากาศนี้จะลงมาถึงพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยเมื่อมวลอากาศเย็นลงมาเจออากาศร้อนชื้น ก็อาจจะส่งผลให้มีฝนตกลงมาได้ จะช่วยทำให้สถานการณ์คลี่คลายลงได้
เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาลมสงบนิ่ง ทำให้ไม่มีปัจจัยช่วยพัดพาฝุ่นละอองให้ถ่ายเทได้ แต่ในช่วงบ่ายมีลมจึงช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้น และในช่วง 1-2 วันนี้ จะมีฝนตก เชื่อว่าจะช่วยให้สถานการณ์ฝุ่นละอองดีขึ้น
ส่วนแนวทางการทำฝนเทียม เพื่อช่วยบรรเทาปัญหาฝุ่นละอองในพื้นที่ กทม.อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา บอกว่า กทม.ไม่เหมาะต่อการทำฝนเทียม เนื่องจากสภาพภูมิอากาศไม่เอื้ออำนวย สภาพอากาศแห้ง และเย็นปกคลุม
กทม.มีคำสั่งทุกเขตหาแหล่งกำเนิดฝุ่นละออง
นายชาตรี วัฒนเขจร ผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร กล่าวว่า พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร มีคำสั่งให้ทุกเขตดำเนินการกวาดล้างถนนอย่างเข้มงวดทุกวัน พร้อมทั้งจัดอุปกรณ์ฉีดพ่นละอองน้ำเพื่อลดปัญหาฝุ่นละออง ตรวจวัดควันดำ และรณรงค์ลดฝุ่นละอองจากการก่อสร้าง อีกทั้งประสานกับกรมฝนหลวงเร่งทำฝนเทียมในพื้นที่เสี่ยงแล้ว
โดยสั่งการตั้งคณะทำงานติดตามสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด โดยกำหนดมาตรการแก้ปัญหาระยะสั้น สั่งการทั้ง 50 เขต ดำเนินการหาแหล่งกำเนิดฝุ่นละออง พร้อมลงพื้นที่ล้างทำความสะอาดถนน ห้ามประชาชนเผาขยะหรือหญ้าแห้ง ในพื้นที่โล่งแจ้งตลอดจนส่งเจ้าหน้าที่ ลงพื้นที่ควบคุมการก่อสร้างต่างๆ ทั่วกรุง
ทั้งระบบสาธารณูปโภคโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าทุกสาย ซึ่งผู้รับเหมาต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัดภายใต้ พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร 2522 พร้อมประสานกองบังคับการตำรวจจราจร กรมขนส่งทางบก ตรวจจับรถยนต์ควันดำ และห้ามติดเครื่องยนต์ขณะจอดรถ ซึ่งทุกหน่วยงานควรบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด
กทม.ถกด่วนหาทางออกแก้ปัญหาฝุ่น
ทั้งนี้ พล.ต.อ.อัศวิน ยังเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมควบคุมมลพิษ กรมอุตุนิยมวิทยา เพื่อหาทางแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วนแล้ว หลังจากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสร้างการรับรู้และความเข้าใจกับประชาชน เกี่ยวกับการดูแลป้องกันตัวเองจากฝุ่นละออง หลังจากพบว่ากรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือ PM 2.5 ในอากาศในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ
ขณะที่วันนี้ เจ้าหน้าที่เขตบางขุนเทียน กวาดล้างถนน บริเวณถนนกาญจนาภิเษก เขตบางขุนเทียน ต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 เพื่อลดปริมาณฝุ่นละอองทางอากาศ หลังเมื่อวานนี้ (13 ม.ค.) พบว่า บริเวณริมถนนกาญจนาภิเษก เขตบางขุนเทียน มีค่าฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐานสูงที่สุดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และอยู่ในระดับมีผลกระทบต่อสุขภาพ สาเหตุเกิดจากปัญหาการจราจรสะสมบริเวณหน้าด่านขึ้นทางด่วนและมีบางจุดอยู่ระหว่างการก่อสร้าง ประกอบกับช่วงนี้ไม่มีการหมุนเวียนของอากาศ ลมไม่พัด
จากการลงพื้นที่เขตบางขุนเทียน พบเห็นประชาชนตื่นตัวกับการสวมหน้ากากอนามัยบางกลุ่มเท่านั้น เช่น ผู้ค้าขายริมถนนรถจักรยานยนต์รับจ้าง เพราะกังวลผลกระทบต่อสุขภาพระยะยาว ส่วนประชาชนทั่วไปพบเห็นมีผู้สวมใส่หน้ากากน้อยมา ซึ่งส่วนใหญ่บอกว่าที่ไม่สวมหน้ากากอนามัย เพราะเกรงว่าจะเกิดความเข้าใจผิดว่าป่วย และต้องการให้ภาครัฐชี้แจ้งข้อมูล และข้อปฏิบัติให้กับประชาชน
นายประลอง ดำรงค์ไทย อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กล่าวว่า คพ.ได้ประสานหน่วยงานต่างๆ เช่นกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ซึ่งให้ความช่วยเหลือในการทำฝนเทียมเพื่อลดฝุ่นมาตลอด ทราบว่าทางกรมฝนหลวงฯก็ติดตามปัญหาเพื่อดำเนินการช่วยเหลืออยู่ ซึ่งมีปัจจัยหลายๆด้านทั้งด้านความชื้นและทิศทางลม หากในอากาศมีความชื้นไม่เพียงพอก็ไม่สามารถดำเนินการได้
คาดว่าในวันพรุ่งนี้(15 ม.ค.) อาจมีโอกาสจะทำฝนเทียมได้ ในส่วนอื่นๆได้ประสานกองบัญชาการตำรวจจราจร ในการตรวจจับรถควันดำบนเส้นทางจราจร ร่วม ขสมก.ตรวจรถโดยสาร ขสมก.ในอู่ต่างๆ พร้อมร่วมประชุมและประสาน กทม. เพื่อดำเนินการตามมาตรการและแนวทางการดำเนินงานเพื่อแก้ไขปัญหา PM2.5 ทั้งให้ทุกเขตกวาดล้างถนนอย่างเข้มข้นทุกวัน รวมทั้งการประสานกระทรวงสาธารณสุขในการเตรียมการและแจกหน้ากากอนามัยให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่เสี่ยง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
วันนี้ยังมีฝุ่น! PM 2.5 เกินค่ามาตรฐาน 18 พื้นที่ริมถนน
