"พล.ต.อ.ประชา" ลงนครศรีฯ ถกม็อบ แก้ปัญหายาง -รับใช้แก๊สน้ำตาคุมม็อบ

การเมือง
6 ก.ย. 56
05:00
33
Logo Thai PBS
"พล.ต.อ.ประชา" ลงนครศรีฯ ถกม็อบ แก้ปัญหายาง -รับใช้แก๊สน้ำตาคุมม็อบ

"พล.ต.อ.ประชา" ลงพื้นที่จ.นครศรีธรรมราช พูดคุย "ม็อบสวนยาง" หวังแก้ปัญหาร่วมกัน ไม่คาดหวังให้ชุมนุมยุติวันนี้ ยอมรับ จำเป็นต้องใช้แก๊สน้ำตา ควบคุมเหตุการณ์ ที่อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์

วันนี้ (6ก.ย.56) เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา คณะกรรมการแก้ไขปัญหายางพารา นำโดยพล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธาน, นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี, นายยุคล ลิ้มแหลมทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการเกษตรและสหกรณ์, นายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, นายประชา ประสพดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย, พล.ต.ต.ธวัช บุญเฟื่อง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี, นายสุภรณ์ อัตถาวงษ์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เดินทางไปยังจ.นครศรีธรรมราช ด้วยเครื่องบิน ที่กรมการขนส่งทหารบก เพื่อพูดคุยกับตัวแทนเกษตรกรชาวสวนยางพารา ในการร่วมกันแก้ไขปัญหาราคายางตกต่ำ ณ โรงแรมทวิน โลตัส

 
พล.ต.อ.ประชา กล่าวว่า ตามนโยบายของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยต่อปัญหาที่เกิดขึ้น และต้องการให้ปัญหายุติลง ซึ่งข้อเสนอในวันนี้ จะนำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ (กนย.) อีกครั้ง โดยไม่ได้คาดหวังว่า การชุมนุมของเกษตรกรนั้น จะยุติลงวันนี้ เพียงแต่ต้องการรับฟังปัญหาร่วมกัน ทั้งนี้ ไม่แสดงความคิดเห็นว่า การชุมนุมเป็นปัญหาทางการเมืองหรือความเดือดร้อนของเกษตรกร 

    

 
นอกจากนี้ พล.ต.อ.ประชา ยังยอมรับว่า ได้มีการใช้แก๊สน้ำตาควบคุมเหตุการณ์ปะทะระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุม และตำรวจ ที่อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์จริง เนื่องจาก มีกลุ่มวัยรุ่น ได้ก่อเหตุเผารถนักข่าว, รถควบคุมตัวผู้ต้องหาตำรวจ รวมถึงยิงปืนก่อกวน

อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้ลงพื้นที่เพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดแล้ว ทั้งนี้ การชุมนุมของชาวสวนยางที่บ้านตูน อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราชได้ยุติลง และเปิดเส้นทางการจราจรแล้ว เมื่อเย็นวานนี้ (5ก.ย.56) รวมถึงเส้นทางรถไฟด้วย 

 
ด้านนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ปัญหาราคายางตกต่ำที่เกิดขึ้นในขณะนี้ เพราะไทยส่งออกยางพารา ร้อยละ 80-90 ทำให้ต้องมีการอิงราคาตามตลาดโลก และมีเพียงร้อยละ 10 ที่ใช้ในประเทศเท่านั้น แต่หลังเกิดการพูดคุย และหารือร่วมกันกับ กยน. ทำให้ราคายางปรับตัวขึ้นตามลำดับทั้งในและนอกประเทศ ดังนั้นหากทุกฝ่ายร่วมมือกัน เชื่อว่าราคายางจะปรับตัวสูงขึ้น

    

 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง