พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ว่า เป็นการหารือการรักษาความปลอดภัยในช่วงที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพการประชุมเอเปค เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ทหาร ตำรวจ ต้องทำงานประสานกัน แต่สิ่งสำคัญคือขอความร่วมมือจากประชาชน โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ จะต้องช่วยกันทำให้บ้านเมืองปลอดภัย อย่าสร้างสถานการณ์ที่ทำให้มีผลกระทบ เพราะจะทำให้ประเทศถอยหลังกลับไปอีก
พร้อมยืนยันว่า ขณะนี้การข่าวยังไม่ได้มีรายงานเหตุการณ์ใดๆ ทั้งสิ้น แต่เป็นการวางแผนเตรียมการและเตรียมความพร้อมในการรักษาความปลอดภัยไว้ก่อน
ขณะที่การประชุมสภากลาโหม นายกฯ กำชับเหล่าทัพและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้การสนับสนุนกระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการต้อนรับ การจัดกองทหารเกียรติยศ การดูแลรักษาความปลอดภัย และการอารักขาบุคคลสำคัญต้องเข้มงวดและรัดกุม รวมทั้งฝึกซ้อมแผนการปฏิบัติและการแก้ไขปัญหาวิกฤตต่างๆ ให้พร้อมรองรับกับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น
สำหรับมาตรการรักษาความปลอดภัย เน้นเพิ่มความเข้มข้นด้านการข่าวทั้งในและนอกประเทศ เฝ้าระวังกลุ่มต่างๆ ไม่ให้เกิดความเคลื่อนไหวที่กระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศ รวมถึงอารักขาผู้นำประเทศที่มีปัญหาความขัดแย้งมากเป็นพิเศษ
มีรายงานว่า การประชุมสภากลาโหม หน่วยงานด้านการข่าวได้สรุปกลุ่มที่เฝ้าระวังที่เคลื่อนไหวอาจจะกระทบภาพลักษณ์ประเทศ รวมถึงกลุ่มที่เคยก่อความรุนแรง ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ
ทั้งนี้ จะมีการตั้งศูนย์ปฏิบัติการด้านการข่าวส่วนหน้า โดยมีสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติเป็นแกนหลัก กองบัญชาการตำรวจสันติบาล หน่วยข่าวกรองทางทหารและศูนย์รักษาความปลอดภัย ขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมแผนรักษาความปลอดภัย โดยแบ่งเป็น 3 ส่วน คือ 1.เส้นทาง 2.สถานที่ และ 3.ผู้นำ ซึ่งขณะนี้สถานการณ์ในภาพรวมยังไม่พบการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติ