ตร.ประสานอายัดบัญชีหลอกยายวัย 82 โอนเงินสูญกว่า 2.5 ล้าน

อาชญากรรม
21 ต.ค. 66
20:04
4,285
Logo Thai PBS
ตร.ประสานอายัดบัญชีหลอกยายวัย 82 โอนเงินสูญกว่า 2.5 ล้าน
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ยายวัย 82 ปีให้ปากคำ ตร.ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกสูญเงินกว่า 2.5 ล้านบาท ลูกชายผู้เสียหายเผยพบประวัติรายการโอนเงิน 20 ครั้ง ปลายทางรับเงินมี 13 บัญชี ขณะนี้ ตร.ประสานอายัดบัญชีทั้งหมดแล้ว

วันนี้ (21 ต.ค.2566) นางซ่อนกลิ่น อายุ 82 ปี พร้อมลูกชาย เดินทางเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ หลังถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกให้โอนเงินเสียหายกว่า 2,580,000 บาท โดยระหว่างที่นางซ่อนกลิ่น เดินขึ้นบันไดไปพบพนักงานสอบสวนที่ชั้น 3 มีลูกชายคอยช่วยพยุงและต้องหยุดพักเป็นระยะ

นายตระกูล ลูกชายของนางซ่อนกลิ่น เล่าเหตุการณ์ว่า ลูกๆ เพิ่งทราบเหตุว่าแม่ลูกหลอก เมื่อวันที่ 12 ต.ค. หลังลูกชายของตนโทรมาเล่าว่าย่าขอยืมเงิน ซึ่งเป็นเรื่องผิดปกติ จนได้พยายามสอบถามสาเหตุ แม่จึงยอมเล่าว่าบัญชีถูกล็อก หลังถูกตำรวจและ ป.ป.ง.ติดต่อมาและขอตรวจสอบบัญชี ทำให้รู้ว่าเป็นแผนหลอกลวงของมิจฉาชีพ เมื่อตรวจสอบบัญชีก็พบว่าเงินฝาก 2 บัญชีของแม่ถูกถอนและโอนออกไปทั้งหมด เสียหายประมาณ 2,580,000 บาท

ขณะเดียวกันได้ย้อนดูประวัติการใช้โทรศัพท์ พบว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรมาหาแม่เมื่อวันที่ 14 ก.ย. หลอกลวงเรื่องการส่งพัสดุต้องสงสัยและเพื่อแสดงความบริสุทธิต้องให้ ป.ป.ง.ตรวจสอบการเงิน จากนั้นมิจฉาชีพก็เริ่มสอนให้แม่เปิดแอปพลิเคชันของธนาคาร โดยเปิดสำเร็จ 1 ธนาคาร ส่วนอีกธนาคารไม่ยินยอมให้ผู้สูงอายุเปิดใช้แอปฯ ตามลำพัง โดยต้องมีลูกมารับรองการเปิดใช้งานด้วย ซึ่งต้องขอชื่นชมเจ้าหน้าที่

ทั้งนี้หลังเปิดแอปฯ ของธนาคารได้ มิจฉาชีพทดลองโอนเงิน 100 บาทในวันที่ 15 ก.ย. ต่อมาวันที่ 16 ก.ย.โอนอีก 2 รอบ รอบละ 1,000,000 บาท โดยได้สอบถามกับธนาคารในเรื่องวงเงินการโอนจำนวนมาก เจ้าหน้าที่แจ้งว่าเป็นไปตามสิทธิของลูกค้าที่ตั้งวงเงินเอาไว้

ส่วนอีกธนาคารที่เปิดแอปฯ ไม่ได้ ปรากฏว่าแม่ได้เข้าไปถอนเงินสดในคราวละ 20,000 บาท และโอนเข้าบัญชีธนาคารที่เปิดแอปฯ อีกที จนหมดบัญชี ซึ่งจากการตรวจสอบประวัติรายการโอนเงิน พบการโอนออกไปทั้งหมดรวม 20 ครั้ง ซึ่งปลายทางรับเงินมี 13 บัญชี คาดว่าเป็นบัญชีม้าทั้งหมด

นายตระกูล เปิดเผยอีกว่า ขณะนี้ตำรวจประสานอายัดบัญชีทั้ง 13 บัญชีไว้แล้วและได้ส่งหนังสือขอชื่อเจ้าของบัญชีจากธนาคาร ร้องขอข้อมูลภายใน 7 วัน เพื่อรวบรวมเป็นหลักฐานในการร้องขอหมายจับจากศาลฯ

ส่วนสภาพจิตใจของแม่ ขณะนี้มีความเครียดอย่างมากและยังเสียใจที่สูญเงินเก็บทั้งหมดไป เพราะเป็นเงินใช้จ่ายประจำวันและค่าดูแลรักษาพ่อ ซึ่งป่วยติดเตียงและเป็นอัลไซเมอร์ ถึงขั้นเขียนจดหลายสั่งลา แต่ลูกหลานช่วยเหลือได้ทันและผลัดกันดูแลใกล้ชิด สำหรับสาเหตุที่แม่ไม่ได้บอกลูกๆ แต่แรก เพราะมิจฉาชีพห้ามไม่ให้บอกใคร โดยหลอกว่าลูกๆ จะถูกตรวจสอบไปด้วย

นายตระกูล ยังได้ฝากเรื่องนี้ไว้เป็นอุทธาหรณ์กับครอบครัวที่มีผู้สูงอายุด้วยว่า ไม่ควรให้ใช้แอปฯ ทำธุรกรรมด้วยตัวเอง พร้อมขอให้ตำรวจปราบปรามกลุ่มบัญชีม้า เพราะเป็นแขนขาสำคัญของหัวหน้าขบวนการคอลเซ็นเตอร์

ทีมข่าวตรวจสอบข้อความสนทนาผ่านแอปฯ ไลน์ที่มิจฉาชีพคุยกับนางซ่อนกลิ่น ตลอดช่วงเวลาประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา พบว่ามีการพูดคุยถามสารทุกข์สุกดิบเพื่อให้ผู้เสียหายไว้วางใจ ซึ่งผู้เสียหายก็ได้เล่าเรื่องชีวิตประจำวัน พร้อมปรับทุกข์บ่อยครั้ง ขณะที่มิจฉาชีพ แม้จะใช้บทสนทนาในเชิงรับฟังและปลอบใจผู้เสียหาย แต่กลับถอนเงินจนไม่เหลือเงินในบัญชีเงินฝากทั้ง 2 บัญชี

อ่านข่าวอื่นๆ

"ราชทัณฑ์" แจง "ทักษิณ" ยังไม่หายป่วยรักษาต่อ รพ.ตร.

จับ "สามี-ภรรยา" ลวงสาวผ่านแอปฯ หาคู่ ถ่ายคลิปขายออนไลน์

คุมตัวขอฝากขัง 3 ผู้ต้องหาบัญชีม้า-คนกดเงิน คดีหลอกขายมือถือ ม.6

"นุช" ร้องกองปราบฯ ถูกคนอ้างเป็นแฟนคลับหลอกซื้อสินค้า "เป๊ก ผลิตโชค"

ข่าวที่เกี่ยวข้อง