ปธ.กมธ.สิ่งแวดล้อมฯ ย้ำให้การบินไทยให้ความสำคัญสิ่งแวดล้อม
นายนริศ ขำนุรักษ์ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ ประธานคณะกรรมาธิการ การที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎรได้ให้สัมภาษณ์ ว่าเมื่อวันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๕ กมธ.ได้พิจารณาเรื่อง แนวนโยบายการรักษาสภาพแวดล้อมและการดำเนินงานของ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เพื่อรองรับมาตรการการเก็บค่าธรรมเนียมการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากสายการบินที่ใช้บริการสนามบินในเขตเศรษฐกิจยุโรป โดยได้เชิญผู้บริหารของการบินไทย มาชี้แจงและตอบข้อซักถาม เพราะเขตเศรษฐกิจยุโรป หรือ EEA ได้มีข้อกำหนดในการจำกัดการปล่อยก๊าซของอุตสาหกรรมในกลุ่มประเทศยุโรปเพื่อลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ตามพันธกรณีภายใต้พิธีสารเกียวโต ตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๕๕ เป็นต้นไป อียูเริ่มบังคับใช้กฎระเบียบว่าด้วยการรวมเอาอุตสาหกรรมการบินเข้าเป็นส่วนหนึ่งของตลาดการค้าคาร์บอนเครดิตของอียู จึงได้กำหนดให้อากาศยานที่บินเข้าและออกจากสนามบินในอียู ต้องมีค่าใช้จ่ายในการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ส่วนเกิน จึงทำให้บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีภารกิจนำอากาศยานเข้า – ออกภายในกลุ่มประเทศอียูได้รับผลกระทบจากมาตรการดังกล่าว ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการฯ จึงมีข้อสรุปจากการประชุมดังนี้
1.ให้บริษัท การบินไทยฯ เร่งดำเนินการทดลองใช้เชื้อเพลิงอากาศยานชีวภาพเพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศ
2.ให้ทำการศึกษาวิจัยร่วมกับผู้ผลิตน้ำมันและผู้ผลิตเครื่องบินในต่างประเทศเพื่อพัฒนาเชื้อเพลิงอากาศยานชีวภาพในอนาคต
3. เห็นควรให้บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ประสานความร่วมมือกับบริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด เกี่ยวกับการควบคุมการจราจรทางอากาศให้มีความรวดเร็วและเป็นระเบียบยิ่งขึ้น เพื่อเป็นการลดภาระค่าน้ำมันเชื้อเพลิง
4. เห็นควรให้รัฐบาลเร่งกำหนดนโยบายกรณีกลุ่มเศรษฐกิจยุโรปนำกฎระเบียบในการจำกัดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในอียูมาใช้บังคับอันเป็นการเพิ่มภาระให้แก่ภาคธุรกิจ รวมทั้งเป็นการกีดกันทางการค้า โดยรัฐบาลควรกำหนดแนวทางให้ชัดเจนเกี่ยวกับมาตรการดังกล่าว ซึ่งถือเป็นมาตรการฝ่ายเดียวของอียู
5.เห็นควรให้การบินไทยลดการใช้ทรัพยากรอื่น และให้คำนึงถึงการดูแลสภาวะแวดล้อมพร้อมๆกับการให้บริการที่ดี เพราะถือว่าการบินไทยเป็นภาพลักษณ์ของประเทศไทย