ศาลสั่งจำคุกชาวเลบานอนมีสารประกอบระเบิด
ศาลอาญารัชดาอ่านคำพิพากษาคดีที่อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 9 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายแอทรีส ฮุสเซน ชาวเลบานอน ซึ่งถูกกล่าวหาเป็นสมาชิกกลุ่มก่อการร้ายฮิซบอลเลาะห์ เป็นจำเลย ในความผิดฐานมีไว้ซึ่งยุทธภัณฑ์โดยไม่ได้รับอนุญาต ตามพระราชบัญญัติควบคุมยุทธภัณฑ์ พ.ศ. 2530 หลังครอบครองสารเคมีอันตรายจำนวนมาก ซุกซ่อนไว้ในโกดังแห่งหนึ่งใน อ.บางโทรัด จ.สมุทรสาคร
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานเห็นว่า แม้นายแอทรีส ให้การปฏิเสธ อ้างว่ามาทำธุรกิจซื้อสินค้า ส่งกลับไปขายที่ต่างประเทศ แต่ระยะเวลากว่า 1 ปี กลับไม่มีการส่งออกสินค้าดังกล่าว ส่วนกรณีอ้างว่าสารเคมีทั้งหมดเป็นของนายแซมมี่ เปาโล เพื่อนที่เช่าโกดังด้วยกัน แต่จากพยานหลักฐานระบุว่า จำเลยมีส่วนร่วมในการเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ เคลื่อนย้ายสารเคมี และเช่าโกดัง ซึ่งเป็นพฤติการณ์ที่ทำให้เห็นว่าจำเลยมีส่วนร่วมดูแลรักษาสารเคมีต้องห้าม จึงมีคำสั่งพิพากษาจำคุกจำเลยเป็นเวลา 4 ปี แต่จำเลยให้การเป็นประโยชน์ทั้งในชั้นสอบสวน และชั้นศาล จึงลดโทษให้ 1 ใน 3 คงเหลือโทษจำคุก 2 ปี 8 เดือน
สำหรับคดีนี้ตำรวจสันติบาลได้รับการประสานงานจากตำรวจประเทศอิสราเอลว่าจะมีสมาชิกกลุ่มฮิซบอลเลาะห์เข้ามาในไทย เพื่อวางระเบิด ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า นายแอทรีส เป็นบุคคลต้องสงสัย และการสอบสวนขยายผลจนพบว่ามีการเช่าโกดังใน อ.บางโทรัด จ.สมุทรสาคร เพื่อเก็บสารแอมโมเนียมไนเตรท และยูเรียจำนวนมาก ซึ่งสารเคมีเหล่านี้สามารถนำมาใช้เป็นส่วนประกอบวัตถุระเบิดได้