"หมอ" โพสต์เตือนลูกพาเชื้อ COVID-19 พ่อแม่ป่วยหนัก

สังคม
18 เม.ย. 63
08:39
17,742
Logo Thai PBS
"หมอ" โพสต์เตือนลูกพาเชื้อ COVID-19 พ่อแม่ป่วยหนัก
หมอในจ.ขอนแก่น โพสต์เตือนสะเทือนใจลูกชายกลับจากต่างประเทศ ไม่ยอมกักตัวส่งผลพ่อและแม่ที่อายุมาก ต้องติดเชื้อ COVID-19 เนื่องจากมีโรคประจำตัวอยู่แล้ว วอนอย่าปกปิดข้อมูล ร่วมรับผิดชอบสังคม สอดคล้องตัวเลขคนติดเชื้อภายในบ้านพุ่ง 3 เท่าจากร้อยละ 8 เป็น 23%

วานนี้ (17 เม.ย.2563) ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Aum Sureewan โพสต์ข้อความระบุว่า จากกรณีผู้ป่วย COVID-19 ต.กุดน้ำใส อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น รายที่ 5 และ 6 คุณตาคุณยายสองสามีภรรยา ที่มีอาชีพทำนาอยู่ตามบ้านนอก หาเช้ากินค่ำ และมีโรคประจำตัวคือโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูง

แล้วอยู่ดีๆวันนึง คุณตาคุณยายต้องมาป่วยด้วยโรคโควิด19 ทั้งที่ภารกิจแต่ละวัน ก็เเค่ ตื่นเช้าเดินลงทุ่งนา ตอนเย็นก็กลับบ้านนอน ชีวิตวนเวียนอยู่แค่นี้ สุดท้ายมันก็มีคนเห็นแก่ตัว มักง่าย

#ลูกชายแท้ๆที่เอาเชื้อโรคมาแพร่ให้คนในบ้าน (ถ้าคุณจะบอกว่าคุณไม่รู้ คุณไม่ได้ตั้งใจ แต่ประวัติการเดินทางของคุณ มันก็ชัดเจนอยู่แล้ว กลับจากต่างประเทศ กลับบ้านเที่ยวพัทยา กลับบ้านแม่ป่วย) บุคลากรต้องกักตัวเอง เพราะคุณปกปิดข้อมูล เกือบร้อยคน

คุณรู้ไหมตอนนี้คุณยายอาการโคม่า คุณตายังตอบสนองได้ดีต่อการรักษา แต่ต้องดูแลอย่างใกล้ชิดโดยทีมแพทย์ รพ.ขอนแก่น

ถือเป็นกรณีตัวอย่างได้ดีมาก ในเรื่องของการให้ความสำคัญ ของ #การกักตัวเอง14วัน_อย่างเคร่งครัดและไม่ปกปิดข้อมูล

#แต่ทำไมเวลา จนท.ไปบอกหรือเตือนหรือแค่ขอความร่วมมือ เราต้องมาโดนคุณ(บางคน)ด่า ตะคอกใส่ ทุกครั้งที่ออกพื้นที่ไปหาคุณ เราแทบคลานแทบหมอบ ไหว้ไปตั้งแต่ประตูบ้าน #ไม่ใช่กลัวโรค #แต่เราต้องการแสดงถึงความเป็นมิตร #อยากลดความตื่นกลัว #ตื่นตระหนก

ภาพ : MGR Online อีสานบ้านเฮา

ภาพ : MGR Online อีสานบ้านเฮา

ภาพ : MGR Online อีสานบ้านเฮา

 

แต่หลายๆครั้ง ที่เราต้องมาได้ยินคำพูดเดิมๆซ้ำๆ ยกตนข่มท่านใส่ ฉันไม่ได้ป่วย ฉันไม่มีไข้ ฉันตรวจมาแล้ว ฉันกักตัวมาแล้ว ฉันรู้ว่าต้องทำยังไง มาบอกฉันให้กักตัวคุณไปบอกคนอื่นให้ได้ก่อน ทุกคำพูด ส่อไปถึงความเห็นแก่ตัวล้วนๆ แล้วไง เพราะคำพูดเหล่านี้ไหม ที่ทำให้พ่อแม่ คนที่คุณรัก อาจจะต้องมาเสียชีวิต เพราะความมักง่ายและเห็นแก่ตัวของคุณ

คุณคิดว่า!! การใส่ชุดแบบนี้ เดินตามบ้าน ทุ่งนา สวน กลางแดดเปรี้ยงๆ มันสนุกนักหรอ คิดว่าเราอยากจะทำหรอ ดูเหมือนพวกเราไม่เดือดร้อน ไม่ได้รับผลกระทบ คุณคิดว่าพวกเราได้เบี้ยเลี้ยง ได้ค่าตอบแทนหรอ ไม่มีค่ะ ขนาดชุด วัสดุอุปกรณ์ ยังขอรับบริจาค แล้วตอนนี้คุณรู้ไหม บุลาการทางการแพทย์ 1 คน ต้องดูแลประชากรหลักหมื่น คุณคิดว่าเราจะทนแรงต้านไหวไหม

ภาพ: เฟซบุ๊ก Aum Sureewan

ภาพ: เฟซบุ๊ก Aum Sureewan

ภาพ: เฟซบุ๊ก Aum Sureewan

 

แต่สุดท้ายแล้ว เราทุกคนก็ต้องสู้ต่อ เพราะมันคือหน้าที่ #ไม่ไหวเมื่อไหร่_ก็แค่ตาย
แต่!!ฉันขอตาย โดยที่..
#ให้ญาติได้นิมนต์พระมาสวด
#ให้ญาติได้เห็นหน้าฉันก่อนเผา
#ให้ญาติได้ยินเสียงฉันร่ำรา
#ให้เราได้กอดกันจนวินาทีสุดท้าย
#ฉันไม่อยากตายแบบโควิด19
#จากเสียงของบุคลากรเล็กๆที่นายอาจจะมองไม่เห็นคุณค่า

....โพสต์นี้ไม่ได้มีเจตนาตำหนิใครหรือว่าใคร แค่อยากยกตัวอย่างให้เห็นชัดเจน และอยากให้ทุกคนตระหนักถึงผลกระทบที่จะตามมาให้ นึกถึงคนที่เรารักให้มากๆนะคะ#ฝากไว้ให้คิด

ล่าสุดการตรวจหาเชื้อ COVID-19 ในคนไข้และญาติ ที่อยู่ในห้องผู้ป่วยรวมห้องเดียวกับผู้ติดเชื้อ รายที่ 5 ที่ไปรักษา โรงพยาบาลน้ำพอง จำนวน 14 คน และแพทย์-พยาบาล เจ้าหน้าที่ 53 คน ผลไม่พบเชื้อ

 

ติดเชื้อภายในบ้านตัวเลขเพิ่ม 3 เท่า 

ก่อนหน้านี้ นพ.อนุพงศ์ สุจริยากุล นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค กล่าวว่า สถานการณ์โรค COVID-19 ในไทย เมื่อจำแนกผู้ป่วยจากแหล่งที่ติดเชื้อในเขตกรุงเทพมหานคร นนทบุรี สมุทรปราการ ระหว่างเดือนมี.ค.-เม.ย.นี้ พบว่า ในเดือนมี.ค.พบผู้ป่วยติดเชื้อ 1,054 คน สาเหตุส่วนใหญ่ติดเชื้อจากนอกบ้านสูงถึงร้อยละ 77 รองลงมาเป็นการติดเชื้อจากต่างประเทศร้อยละ 15 และเป็นการติดเชื้อในบ้านร้อยละ 8

ส่วนเดือนเม.ย.นี้ (ข้อมูลวันที่ 1-12 เม.ย.) พบผู้ป่วย 460 ราย เป็นการติดเชื้อจากนอกบ้านร้อยละ 60 ติดเชื้อในบ้านเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 23 ราย ส่วนติดเชื้อจากต่างประเทศพบร้อยละ 17 จากข้อมูลข้างต้น

พบว่าการติดเชื้อภายในบ้านมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ส่วนใหญ่มาจากการรับเชื้อภายนอกเขามา อาทิ จากผู้ที่ทำงานนอกบ้าน จับจ่ายซื้อของ ทำธุระนอกบ้าน ลูกหลานไปรวมกลุ่มสังสรรค์ แม้กระทั่งจากผู้ที่มาหาที่บ้าน

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

"ร้านตัดผม" ขานรับผ่อนปรนคุมโรคหลังปิด 1 เดือน

ส่ง 284 คนไทยกักตัวครบกลับบ้าน เตรียมรับจากสหรัฐฯ 120 คน

 

 

แท็กที่เกี่ยวข้อง:

-
ข่าวที่เกี่ยวข้อง