หมอแนะ 12 วิธี "ฟังและสอนลูก" มองต่างการเมือง

สังคม
16 ส.ค. 63
14:50
7,625
Logo Thai PBS
หมอแนะ 12 วิธี "ฟังและสอนลูก" มองต่างการเมือง
หมอวัยรุ่น แนะ 12 ข้อ พ่อแม่ต้องปรับการ "รับฟัง-สอน -เข้าใจ" ลูกที่มีความเห็นต่างทางการเมือง ระบุหลังเกิดม็อบชุมนุมการเมืองมีผู้ปกครองปรึกษาเข้ามาบ่อยขึ้น

กรณีการชุมนุมของกลุ่มนักเรียน นิสิต นักศึกษาที่ออกมาเคลื่อนไหวเรื่องประชาธิปไตย วันนี้ (16 ส.ค.2563) พญ.จิราภรณ์ อรุณากูร หรือ "หมอโอ๋" กุมารแพทย์เวชศาสตร์วัยรุ่น คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี เจ้าของเฟซบุ๊กแฟนเพจ เลี้ยงลูกนอกบ้าน ระบุว่า เมื่อเราและลูกเห็นต่างทางการเมือง คลินิกวัยรุ่นของหมอ เริ่มมีพ่อแม่มาบ่นกลุ้มใจที่ลูกเข้าไปวุ่นวายกับเรื่องของการเมือง

ห้ามก็ไม่ฟัง นี่ขู่ตัดแม่ตัดลูกไปละ ส่งเสียเรียนมาขนาดนี้ ยังโง่ให้เค้าจูงจมูก หมอคุยให้หน่อย ว่าไม่ให้เข้าไปยุ่งกับอะไรพวกนี้ หมอมีคำแนะนำสำหรับพ่อแม่ ดังนี้ 

  • ให้ดีใจที่ลูกมองว่า "การเมืองเป็นเรื่องของทุกคน" ประเทศจะไม่พัฒนาด้วยวัยรุ่นที่มองแต่ปัญหาของตัวเอง
  • จงเชื่อมั่นว่าวัยรุ่นที่ "ตั้งคำถาม" นำมาซึ่งความงอกงามเสมอ
  • หลีกเลี่ยงการใช้คำพูดตัดสิน ดูถูก บั่นทอนคุณค่า "โง่" "อุตส่าห์เรียนสูง" "ให้เค้าจูงจมูก" เพราะนั่นไม่ได้ทำให้เกิดการสื่อสารที่สร้างสันติ
  • "รับฟัง" แบบเปิดใจไม่รีบตัดสิน ลูกรู้สึกอะไร อึดอัดอะไร มีความต้องการอะไร ให้คุณค่ากับอะไร ทำไมถึงคิดหรือเชื่อสิ่งนั้น ฟัง... ด้วยความต้องการที่จะเข้าใจ ไม่ใช่ฟังเพื่อสั่งสอน
  • เคารพการให้ "คุณค่า" ในสิ่งที่แตกต่าง (สมัยพ่อแม่อาจให้คุณค่าเรื่องการไม่ตั้งคำถามกับคนที่เคารพหรือมีอำนาจ เด็กสมัยนี้ให้คุณค่ากับสิทธิความเป็นมนุษย์ ความยุติธรรมและความเท่าเทียม)
  • ตั้งคำถามกับสิ่งที่ลูกให้คุณค่า (เราอาจพบว่านั่นก็ไม่ใช่เรื่องผิด เพราะมันคือสิทธิขั้นพื้นฐาน) บอกลูกได้ ถึงสิ่งที่เราให้คุณค่า และที่มาของความเชื่อนั้น
  • อย่ารีบปักใจว่าลูกโง่ เด็กสมัยนี้โตมากับความรู้มหาศาล ให้สงสัยความไม่รู้ของตัวเองอยู่ด้วยเสมอ
  • สอนลูกตั้งคำถาม กับสิ่งที่ลูกเชื่อหรือถูกบอกมา อันไหนจริง อันไหนใช่ เพราะอะไรถึงเชื่อสิ่งนั้น ช่วยลูกฝึกการวิเคราะห์แยกแยะ
  • การที่วัยรุ่นลงมือลงแรงเรียกร้องการเปลี่ยนแปลงกับสิ่งที่เชื่อมั่น นั่นคือพลังงานของวัยหนุ่มสาว ที่เราควรรักษาไว้
  • สอนลูกเรื่อง การเรียกร้องสิทธิ ไม่ควรกระทำโดยการละเมิดสิทธิของผู้อื่น
  • สอนลูก(และตัวเอง) ว่าการใช้ hate speech สร้างความเกลียดชัง หรือการสร้างภาพเลวร้ายให้ตัวบุคคล อาจไม่นำไปสู่การสร้างความเข้าใจในสิ่งที่ตนต้องการ
  • อธิบายลูกว่าความรักความศรัทธาของคนหลายคน อาจไม่ต้องมีเหตุผล แต่เป็นเรื่องที่เราควรให้คุณค่า อย่าทำลายหรือดูถูกความศรัทธาของผู้อื่น

รับฟัง-สร้างพื้นที่ปลอดภัย-พลังใจ

นอกจากนี้ พญ.จิราภรณ์ ยังระบุว่าอีกว่า หมอเชื่อว่าความขัดแย้ง การตั้งคำถาม นำมาซึ่งการเปลี่ยน แปลงเสมอ การรับฟังสร้างพื้นที่ปลอดภัย โอบกอดความเห็นต่างด้วยความเข้าใจ การหลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรง น่าจะเป็นทางออกของความขัดแย้งที่เกิดขึ้น สุดท้ายถ้าเข้าใจและเห็นด้วยในสิ่งที่ลูกเชื่อมั่น จงเป็นพลังให้พวกเขา

ถ้าลูกยืนยันจะไปม็อบ ก็เตรียมแมสก์ แอลกอฮอล์ ร่มกันฝน และเงินประกันตัวถ้าไม่เห็นด้วยในสิ่งที่ลูกเชื่อมั่น แต่ก็ห้ามไม่ได้ ก็ช่วยเตรียมแมสก์ แอลกอฮอล์ ร่มกันฝน แต่บอกลูกได้ว่า พ่อแม่จะมีขอบเขตการช่วยเหลืออยู่แค่ไหน ลูกต้องตัดสินใจ เรียนรู้ และรับผิดชอบกับทางเลือกของตัวเอง และไม่ว่าจะเห็นด้วยหรือไม่ อยากให้กอดลูกและบอกตัวเองว่า

โลกข้างหน้า คือโลกที่เป็นของลูก

 

หมอโอ๋เพจเลี้ยงลูกนอกบ้าน ผู้อยากขออภัยหลายคนที่ไม่อยากให้ใช้พื้นที่ตรงนี้ เกี่ยวข้องกับการเมืองนะคะ ส่วนตัวหมอว่าการเมืองควรเป็นเรื่องพูดได้ และการเมืองคือเรื่องของเราทุกคน เราจะเป็นพ่อแม่ที่มีเงิน มีเวลาเลี้ยงลูกได้มากแค่ไหน ลูกจะมีการศึกษาที่ดีพอหรือเปล่า เราจะแก่ไปแบบพึ่งตัวเองได้โดยไม่ต้องทวงบุญคุณลูก สิ่งเหล่านี้คือเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการเมืองอย่างเลี่ยงเป็นเรื่องอื่นไม่ได้จริงๆ ป.ล.เขียนความเห็นต่างกันได้ แต่อย่าถึงขั้นให้ต้อง #saveหมอโอ๋  

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ตำรวจคุมเข้มชุมนุมใหญ่-ศาลออกหมายจับ 15 แกนนำ

"แอมเนสตี้" เปิดตัวอาสาสมัคร จับตาชุมนุมการเมือง

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง