ติดโควิดต้องรักษาในโรงพยาบาล กักตัวอยู่บ้านเสี่ยงผิดกฎหมาย

อธิบดีกรมควบคุมโรค ไขข้อสงสัยติด COVID-19 แล้วกักตัวอยู่ที่บ้านต่อได้หรือไม่ ย้ำผู้ติดเชื้อต้องเข้ารักษาที่โรงพยาบาลเท่านั้น หากกักตัวอยู่บ้านเสี่ยงผิดกฎหมาย ยืนยัน กระทรวงสาธารณสุขประสานทุกหน่วยงานมีเตียงเพียงพอรองรับผู้ติดเชื้อทุกคน

วันนี้ (13 เม.ย.2564) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงกรณีพบผู้ติดเชื้อ COVID-19 ต้องกักตัวอยู่ที่บ้านไม่ได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลว่า สำหรับการตรวจหาเชื้อ COVID-19 นั้น พบว่ามีผู้ติดเชื้อบางส่วนที่ไปตรวจกับห้องปฏิบัติการแล้วไม่มีโรงพยาบาลรองรับหลังทราบผลการตรวจ

ล่าสุด กระทรวงสาธารณสุขได้ประสานโรงพยาบาลเอกชนรวมตัวเป็นเครือข่ายส่งต่อผู้ป่วย รวมทั้งเตรียม Hospitel ซึ่งเปิดรองรับได้แล้ว 4,000 เตียง และหลายหน่วยงานได้เร่งจัดตั้งโรงพยาบาลสนามอย่างต่อเนื่อง

ผู้ติดเชื้อต้องได้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเท่านั้น ขณะนี้โรงพยาบาลมีเตียงเพียงพอ 30,000 เตียง อยู่ในมือเรียบร้อย พร้อมให้การรักษา

ส่วนผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการ แม้ว่าจะไม่มีอาการ แต่ต้องได้รับการดูแลจากแพทย์ เนื่องจากผู้ติดเชื้อบางคนมีอาการปอดบวมไม่มีอาการ แล้วอาการรุนแรงขยายตัวได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้น ผู้ติดเชื้อทุกคนต้องได้รับการดูแลจากแพทย์เท่านั้น "วันนี้ไม่มีอาการ ไม่ได้หมายความว่าพรุ่งนี้จะไม่มีอาการ"

นพ.โอภาส ระบุอีกว่า ผู้ติดเชื้อ COVID-19 อยู่ที่บ้านก็ยังสามารถแพร่เชื้อได้เวลาพูดคุย หรือไอ จาม การควบคุมโรคจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก ไม่ควรอยู่บ้านเด็ดขาด ในต่างประเทศที่ให้ผู้ป่วยอยู่บ้านนั้นเนื่องจากผู้ติดเชื้อมากจนเจ้าหน้าที่ดูแลไม่ไหว

โรคนี้เป็นโรคติดต่ออันตราย หากเจ้าหน้าที่สั่งให้มารักษาก็ต้องมารักษา ไม่เช่นนั้นจะผิดตามข้อกฎหมาย ส่วนผู้ที่เชิญชวนให้ผู้ติดเชื้อคนอื่นอยู่บ้านก็ขอให้หยุดการกระทำนั้นด้วย

ทั้งนี้ สำหรับผู้ติดเชื้อ COVID-19 ที่ยังไม่ได้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ขอให้ติดต่อเจ้าหน้าที่ผ่านสายด่วนโทร 1668 1330 และ 1669

สำหรับผู้สัมผัสเสี่ยงสูง หลังตรวจหาเชื้อครั้งแรกเป็นลบ ขอให้ยังกักตัวอยู่ที่บ้าน 14 วัน สวมหน้ากากให้ได้มากที่สุด ห้ามเข้าไปในแหล่งชุมชนหรือพื้นที่แออัด และตรวจหาเชื้ออีกครั้งหลัง 7 วัน