วันนี้ (20 ต.ค.2564) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลา โหม ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำรับฟังความคืบหน้าการบริหารจัดการน้ำ รวมถึงแนวทางช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ จ.สิงห์บุรี
เพจสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสิงห์บุรี รายงานว่า นายกรัฐมนตรี จะนั่งเรือท้องแบนลงพื้นที่ประสบอุทกภัยชุมชนบางแคใน ใต้สะพานบางระจัน อ.เมือง จ.สิงห์บุรี ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ และมอบถุงยังชีพให้ผู้ประสบภัยในชุมชนที่น้ำท่วมสูง จากนั้นจะตรวจสภาพพนังกั้นน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณวัดเฉลิมมาศ
ก่อนเดินทางไปจ.สิงห์บุรี นายกรัฐมนตรี ยังระบุถึงการแก้ปัญหาน้ำแบบครบวงจร โดยบูรณาการทุกภาคส่วนไม่ให้เกิดผลกระทบกับประชาชน ทั้งช่วงน้ำมาก และช่วงภัยแล้ง
วันเดียวกัน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ มีภารกิจลง พื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม จ.กาญจนบุรี โดยจะเดินทางไปยังอาคาร 50 ปี เขื่อนแม่กลอง ต.ม่วงชุม อ.ท่าม่วง รับฟังรายงานสถานการณ์ และแนวทางการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ พร้อมเป็นประธานพิธีกดปุ่มเปิดนำชุมชน ต.ทุ่งกระบำ อ.เลาขวัญ ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ และรับมอบสุขาลอยน้ำจากกระทรวงแรงงาน เพื่อมอบให้ จ.กาญจนบุรี
เฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำ 17 แห่งน้ำล้น
ขณะที่ สำนักงานงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) รายงานสถานการณ์น้ำว่าขณะนี้ ปริมาณน้ำทั้งประเทศ 59,303 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็น 72% แหล่งน้ำขนาดใหญ่ 52,251 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 73% โดยยังต้องเฝ้าระวังน้ำน้อยในแหล่งน้ำขนาดใหญ่ 5 แห่ง เฝ้าระวังน้ำมาก จำนวน 17 แห่ง เช่น บึงบอระเพ็ด หนองหารกุมภวาปี อ่างเก็บน้ำแม่มอก อ่างแควน้อยบำรุงแดน อ่างเก็บน้ำทับเสลา อ่างเก็บน้ำป่าสักชลสิทธิ์ อ่างเก็บน้ำกระเสียว อ่างเก็บน้ำอุบลรัตน์ อ่างเก็บน้ำจุฬาภรณ์ อ่างเก็บลำตะคอง อ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง อ่างเก็บน้ำมูลบน อ่างเก็บน้ำลำนางรอง อ่างเก็บน้ำลำแซะ อ่างเก็บน้ำ ขุนด่านปราการชล อ่างเก็บนฤบดินทรจินดา และอ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล
ระบายน้ำเขื่อนกระเสียวกระทบลุ่มน้ำท่าจีน
สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำ ขณะนี้ เขื่อนกระเสียว มีปริมาณน้ำมาก และมีแนวโน้มน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำเพิ่มขึ้น จึงปรับเพิ่มการระบายน้ำในอัตราวันละ 17 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งจะส่งผลกระทบตลอดสองฝั่งลำห้วยกระเสียว ในเขต อ.หนองหญ้าไซ อ.เดิมบางนางบวช อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี และในเขตพื้นที่ตลอดลุ่มน้ำท่าจีน
ส่วนเขื่อนทับเสลา ระบายน้ำผ่านอาคารระบายน้ำลงลำน้ำเดิม ระบายน้ำเพิ่มขึ้นวันละ 7.08 ล้านลบ.ม. และมีปริมาณน้ำไหลล้นอาคารระบายน้ำฉุกเฉิน วันละ 9.44 ล้านลบ.ม. ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ริมคลองทับเสลาทั้ง 2 ฝั่ง ระวังน้ำหลากฉับพลัน ตั้งแต่ อ.ลานสัก อ.หนองฉาง และ อ.เมืองอุทัยธานี จ.อุทัยธานี
นอกจากนี้ ในส่วนของกทม.แจ้งเตือนชุมชนที่อยู่นอกคันกั้นน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา 11 ชุมชน 239 ครัวเรือน ในพื้นที่ 7 เขต ให้ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งตรวจสอบความแข็งแรงและจุดรั่วซึมของแนวป้องกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยา ความยาวประมาณ 78.93 กิโลเมตร รวมทั้งเรียงกระสอบทรายเป็นเขื่อนชั่วคราวในบริเวณที่ไม่มีแนวป้องกันน้ำถาวร และบริเวณแนวป้องกันที่มีระดับต่ำตามจุดต่างๆ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
อพยพลูกหมูฟาร์มเลี้ยงหนีน้ำท่วม จ.กาญจนบุรี
รพ.มหาราชนครราชสีมา ขอเลื่อนนัดผู้ป่วย 1 สัปดาห์ ทางเข้าน้ำยังท่วมสูง