“เบญจา-วราวุธ” ซัดกันนัวกระทู้สดน้ำมั่นรั่ว ปกป้องประโยชน์ใคร?

Logo Thai PBS
“เบญจา-วราวุธ” ซัดกันนัวกระทู้สดน้ำมั่นรั่ว ปกป้องประโยชน์ใคร?
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
"เบญจา" ตั้งกระทู้สดถามหาความจริงใครรับผิดชอบน้ำมั่นรั่วทะเลระยอง ตัวเลขน้ำมันที่ยังคลาดเคลื่อน รัฐจงใจปกปิดข้อมูลหรือไม่ ทำให้ "วราวุธ"ลุกขึ้นตอบโต้ทันที ยันหวงดูแลทรัพยากร ปกป้องประโยชน์ประชาชน ทุกบาทเอกชนผู้ก่อมลพิษต้องจ่ายค่าเสียหาย

วันนี้ (3 ก.พ.2565) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการประชุมสภาผู้แทนราษฎร น.ส.เบญจา แสงจันทร์ ส.ส.พรรคก้าวไกล ตั้งกระทู้ผลกระทบจากเหตุน้ำมันรั่วของบริษัทสตาร์ปิโตรเลี่ยม รีไฟน์นิ่ง จำกัด มหาชน (SPRC) เมื่อวันที่ 25 ม.ค.ที่ทะเลมาบตาพุด จ.ระยอง โดยระบุว่าเป็นภัยพิบัติทางทะเลที่มาซ้ำเติมผลกระทบทางเศรษฐกิจจากสถถานการณ์โควิด-19 ที่ทำให้หลายปีระยองซบเซาจากการท่องเที่ยว ซึ่งอุบัติภัยน้ำมันรั่วเคยเกิดขึ้นครั้งใหญ่เมื้่อปี 2556 ที่อ่าวพร้าว หมูเกาะเสม็ด และการเยียวยาและฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมยังมีอยู่จนถึงวันนี้ 

น้ำมันรั่วไม่ใช่ครั้งแรก และไมใช่ครั้งสุดท้าย แต่เป็นฝันร้ายของชาวบ้าน และกระทบต่อสิ่งแสดล้อมที่ประเมินมูลค่าไม่ได้ แม้จะควบคุมสถานการณ์ได้ แต่ยังมีผลกระทบมาจนถึงวันนี้ง ซึ่งพบว่าตั้งแต่ปี 56 มาน้ำมั่นรั่ว 26 ครั้ง

 

น.ส.เบญจา ตั้งคำถามเรื่องการดำเนินคดีกับผู้ประกอบการ และการเยียวยาผลกระทบต่อชุมชน ทรัพยากรธรรมชาติ เพราะผ่านมา 7 วันยังไม่ชัดเจนโดยเฉพาะตัวเลขน้ำมันดิบ 400,000 ลิตร เปลี่ยนเป็น 160,000 ลิตร และเมื่อสำรวจใต้น้ำกลับเหลือตัวเลข 50,000 ลิตร ทั้งที่รัฐสามารถตรวจสอบเอกสารนำเข้าที่จดแจ้งได้ แต่รมว.และหน่วยงานรัฐไม่ทำแล้ว และยังปล่อยเรือของกลางกลับประเทศ ไม่อายัดตรวจสอบ

ข้อมูลน้ำมันที่รั่วลงทะเลยังสับสน และตั้งข้ออสังสัยว่ารัฐร่วมมือกับนายทุนนั้นยักษ์ใหญ้ข้ามชาติหรือไม่ ปกปิดน้ำมั้นรั่วไหลออกมา และใช้พยายามปรับลดตัวเลขเพื่อเลี่ยงภาระความรับผิดชอบเอกชนรายใหญ่หรือไม่

อ่านข่าวเพิ่ม ข่าวดี! ไม่พบคราบน้ำมันในทะเลระยอง ยื่นเยียวยา 508 คน

นอกจากนี้น.ส.เบญจา ระบุว่ารู้สึก แปลกใจที่นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ที่เป็นตัวแทนรัฐบาลต้องปกป้องประชาชน แต่กลับมาบอกว่ามีน้ำมันเป็นแผ่นฟิล์มบางๆประมาณ 20,000 ลิตรและและดูจากกระแสน้ำวางใจได้ว่าจะไม่พัดเข้าฝั่ง อีกทั้งยังอยากถามว่าตอนนี้ท่านทราบหรือยังว่าเรือที่บรรทุกน้ำมันรั่วไหลกลางทะเลเป็นสัญชาติอะไร บรรทุกน้ำมันมาเท่าไหร่ รวมทั้งการสอบสวนจุดรอยรั่วเป็นท่อที่เอกชนรับผิดชอบ มีการบำรุงรักษาหรือมาตรวจสอบอายุการใช้งานครบถวนหรือไม่

เห็นความเสียหายหายนะที่เกิดขึ้นกับประชาชนจะรับผิดชอบอย่างไร ฝากประธานสภาฯ ถามไปยังนายก-รมว. ที่มาตอบอย่าให้ข้อสังสัยว่าร่วมมือกับนายทุนน้ำมันยักษ์ใหญ้ข้ามชาติปกปิดข้อมูลน้ำมันรั่ว

"วราวุธ" ลั่นไม่ปกป้องประโยชน์ใคร-ยันเอาผิดเอกชน

ด้านนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตอบกระทู้สดว่า ยอมรับว่ายังมีข้อกังขาเรื่องตัวเลขน้ำมันรั่วที่คลาดเคลื่อน แต่จากการลงพื้นที่เมื่อวันที่ 30 ม.ค.ที่ผ่านมา เห็นผลกระทบที่เกิดขึ้นและจะไม่ปกป้องผลประโยชน์ให้ใครแน่นอน ที่ผ่านมาช่วงโควิด 3-4 ปีมีการฟื้นฟู ดูแลทรัพยากรเป็นอย่างดี

อยากให้บริษัทรับทราบว่าทรัพยากรที่ทุกคนดูแลมา 3-4 ปี แต่แค่ 3-4 ชม.ในวันที่ 25-26 ม.ค.ที่น้ำมันรั่ว ก่อให้เกิดความเสียหายมากแค่ไหนทั้งทรัพยากร ประมง และทรัพยากรที่สูญเสีย ทุกอย่างต้องได้รับเยียวยาและชดใช้จากบิรษัททั้งหมด

นายวราวุธ กล่าวอีกว่า ส่วนตัวเลขพบว่าตัวเลขนำ้มันที่ที่ยังไม่ตรงกัน น้ำมันรั่วจากเรือ และเรือสัญชาติอะไรจากที่เช็กข้อมูล เรือไม่ได้ต่อท่อกับทุ่นน้ำมัน แต่นำมันรั่วมาจากท่ออ่อน เพราะชายฝั่งมีท่อเหล็กยื่นมา 20 กม.และมีท่ออ่อนต่อผ่านทุ่นนี้ ตอนที่น้ำมันรั่วกลางคืน ไม่ได้ต่อท่อ และขนน้ำมัน จุดที่รั่วห่างจากพื้นทะเล 1 เมตร จึงยังเช็สต็อกนำ้ำมันจากเรือไม่ได้ เพราะไม่ได้ขนถ่าย แต่น้ำมันรั่วมาจากชายฝั่งจากบริษัท  

 

“ถ้าจะบอกว่าบริษัทโกหกรัฐ ก็ยังไม่มีข้อมูลที่ซับพอร์ตได้ ตอนเช้าจึงเห็นฟิล์มบางๆในทะเล ยืนยันไม่ได้ไม่รักษาประโยชน์ใคร แต่น้ำมันฟิล์มน้ำมันบางจริงๆ เพราะเป็นไลต์ครูด ออยล์ ไม่ใช่เฮฟวี ครูด ออยล์ เป็นแต่ข้อเสียจะควบคุมได้ยากกว่า นอกจากนี้ในฐานะรมว.ทส.ต้องไม่สร้างความตระหนก และต้งให้ข้มูลถูกต้องกับสาธารณชน ถ้าบอกว่าท่องเที่ยวไมได้ และปะการังพังแน่นอน จะโอเวอร์เกินไป ตอนนี้ทั้งปะการัง และสารพิษใต้น้ำมีการติดตามทุกวัน"

นอกจากนี้ รมว.ทส.กล่าวอีกว่า สำหรับการใช้สารดิสเพอร์แซนต์ในการสลายคราบน้ำมันให้แตกตัวในระดับโมเลกุลขนาดเล็กจะเอื้อให้จุลินทรีย์ในทะเลสามารถกัดกินคราบน้ำมัน ตัวสารไฮโดรคราร์บอน ใช้เวลา 2-3 เดือน นำมันจะถูกจุลินทรีย์กัดกินไป ซึ่งมีการใช้สาร 60,000-70,000 ลิตร ซึ่งไม่ควรใช้มากขนาดนั้น เพราะเกิดกลางคืน และต้องหลับหูหลับตาฉีดเพื่อกะว่าไม่ให้น้ำมันกระจายไปที่ไหน

ผมหวงที่สุดทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมประเทศไทย ใครมาทำให้ทะเลเสียหาย พี่น้องเดือดร้อน ผมไม่ยอมแน่นอน รัฐบาลไม่เคยปกป้องประโยชน์ใคร ไม่มีทางเกิดขึ้นแน่นอนในยุคของคนรมว.ทส.ชื่อวราวุธ

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ย้อนรอย "ทะเลสีดำ" 45 ปีน้ำมันรั่วในทะเลไทย 235 ครั้ง

 "ปะการัง" เกาะเสม็ดยังรอดคราบน้ำมัน-แม่ค้าโวยคนเมินอาหารทะเล

 

 


 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง