สถานการณ์ภัยแล้งภาคอีสานยังคงรุนแรง

ภูมิภาค
22 ส.ค. 55
12:17
14
Logo Thai PBS
สถานการณ์ภัยแล้งภาคอีสานยังคงรุนแรง

แม้หลายพื้นที่ภาคเหนือและภาคใต้จะยังคงมีฝนตกแต่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือหลายจังหวัด กลับต้องประสบปัญหากับภาวะภัยแล้ง จนนาข้าวและพื้นทางการเกษตรเสียหายจำนวนมาก

ชาวบ้านผักขะ ต.ลิ้นฟ้า อ.ยางชุมน้อย จ.ศรีสะเกษ ช่วยกันขุดลอกคลองส่งน้ำอีสานเขียว เพื่อสูบน้ำจากแม่น้ำมูลใส่นาข้าวที่กำลังจะแห้งตายเพราะขาดน้ำ ขณะที่ชลประทานนำเครื่องสูบน้ำ 5 เครื่องไปติดตั้ง เพื่อสูบน้ำช่วยชาวนาใน อ.ราษีไศล และกันทรารมย์ ที่คาดว่าจะช่วยบรรเทาความเสียหายได้วันละ 2,000 ไร่

เช่นเดียวกับเกษตรกรผู้ปลูกพริก ใน อ.ขามสะแกแสง แหล่งผลิตพริกที่ใหญ่ที่สุดของ จ.นครราชสีมา ก็เดือดร้อนอย่างหนัก จากภาวะฝนทิ้งช่วงนานเกือบ 3 เดือน ส่งผลให้ต้นพริกที่กำลังให้ผลิตหลายร้อยไร่ ใน ต.หนองหัวฟาน เริ่มที่จะแห้งเฉา ประกอบกับสภาพอากาศที่ร้อนจัด ส่งผลให้ผลของพริกเริ่มไหม้เกรียมและแห้งตาย ซึ่งเกษตรกรบอกว่าหากยังไม่มีฝนตกลงมาภายในเดือนนี้ คาดว่าพริกพื้นที่กว่า 6,000 ไร่ จะเสียหายทั้งหมด

ขณะที่ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงนครราชสีมาและขอนแก่น ยังคงขึ้นบินทำฝนหลวง ในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์อย่างต่อเนื่อง แต่สภาพอากาศสัมพัทธ์ไม่เพียงพอทำให้มีฝนตกน้อยและไม่ครอบคลุมทุกพื้นที่ ส่งผลให้นาข้าวเสียหายแล้วกว่า 1,000,000 ไร่ ล่าสุด จ.บุรีรัมย์ประกาศพื้นที่ภัยพิบัติแล้งแล้ว 11 อำเภอ

ส่วนที่ จ.ตาก แม้ในช่วงหลายวันที่ผ่านมาจะมีฝนตกต่อเนื่อง แต่กลับพบว่ามีน้ำไหลเข้าเขื่อนภูมิพล อ.สามเงา เพียง 19 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวันเท่านั้น ขณะที่เขื่อนระบายน้ำออกวันละ 8 ล้านลูกบาศก์เมตร นายณรงค์ ไทยประยูร ผู้อำนวยการเขื่อนภูมิพลเปิดเผยว่า ปัจจุบันเขื่อนภูมิพลกักเก็บน้ำไว้กว่าร้อยละ 40 โดยยังสามารถรับน้ำได้อีกกว่า 7,000 ล้านลูกบาศก์เมตร

ขณะที่สถานการณ์น้ำท่วมในตัวเมืองภูเก็ต ล่าสุดกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว หลังฝนหยุดตกมาตั้งแต่เมื่อวานนี้ (21 ส.ค.) ประกอบกับเจ้าหน้าที่เทศบาลนครภูเก็ต เร่งสูบน้ำที่ท่วมขังทำให้สถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติได้เร็ว ส่วนสาเหตุที่ทำให้น้ำท่วมก่อนหน้านี้เนื่องจากระบายน้ำลงสู่ทะเลไม่ทัน


ข่าวที่เกี่ยวข้อง