จับตาความเคลื่อนไหว 4 พรรคร่วมรัฐบาล แก้รัฐธรรมนูญเพื่อ
ความเห็นต่างที่จะนำไปสู่ความขัดแย้ง ไม่เพียงข้อสังเกตว่าพรรคเพื่อไทย กำลังขับเคลื่อนด้วยเป้าหมายทางการเมือง เพื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เท่านั้น แต่ยังมีข้อสังเกตว่า คณะทำงานพรรคร่วมรัฐบาล กำลังเอื้อประโยชน์ต่ออดีตนายกรัฐมนตรี โดยมีนายโภคิน พลกุล มือกฎหมายของพรรคเพื่อไทย เป็นผู้ผลักดัน เนื่องจากเป็นประธานคณะทำงานศึกษาหาทางออกเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ และยังมีบุคคลแวดล้อม ในฐานะอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ในฐานะกรรมการจาก 4 พรรคร่วมรัฐบาล ร่วมสนับสนุน
พรรคเพื่อไทยยังมีนายวราเทพ รัตนากร, นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา,นายพีรพันธุ์ พาลุสุข,และนายชูศักดิ์ ศิรินิล ที่เป็นมือกฎหมาย และมีนายอุดมเดช รัตนเสถียร ประธานวิปรัฐบาล รวมถึงนายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรค ร่วมเป็นกรรมการด้วย
ส่วนกรรมการจากพรรคชาติไทยพัฒนา คือ นายชุมพล ศิลปอาชา ซึ่งมีที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค เป็นนายบรรหาร ศิลปอาชา ขณะที่นายภราดร ปริศนานันทกุล ถือเป็นนักการเมืองรุ่นใหม่ แต่เป็นบุตรชาย นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล และเชื่อได้ว่า ภาพสะท้อนทางการเมือง คือบุคคลใกล้ชิดนายบรรหาร ที่เคยประกาศไม่เห็นด้วยกับรัฐธรรมนูญ ปี 2550 โดยเฉพาะมาตรา 237 ที่เป็นยาแรงทางการเมือง
พรรคชาติพัฒนา มีนายประเสริฐ บุญชัยสุข ซึ่งนอกจากจะเป็นรัฐมนตรีแล้ว ยังเป็นคนใกล้ชิดนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ที่ร่วมเป็นกรรมการ เช่นเดียวกับนายสันตศักย์ จรูญ งามพิเชษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อหนึ่งเดียวของพรรคพลังชล ก็มีความใกล้ชิดกับนายสนธยา คุณปลื้ม นี่จึงกลายเป็นเหตุผลประกอบกระแสข่าวว่า การเดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญ ปี 2550 ให้เสร็จสิ้นในกระบวนการเพื่ออดีตนายกรัฐมนตรี