“หมอเกษม” ชี้ 10 ปีหน้า คนไทยสุขภาพดี ต้องยึด 4 มิติ กาย จิต สังคม จริยธรรมปัญญา

สังคม
29 พ.ค. 56
10:56
243
Logo Thai PBS
“หมอเกษม” ชี้ 10 ปีหน้า คนไทยสุขภาพดี ต้องยึด 4 มิติ กาย จิต สังคม จริยธรรมปัญญา

คนทำงานสุขภาพเป็นคนปิดทองหลังพระ แนะยึด 6 หลักทรงงานในหลวง หวังคนไทยมีสุขภาพดีถ้วนหน้า ช่วยคนจนมากกว่าอุ้มคนรวย สสส. - 300 ภาคีเครือข่าย ประกาศปฏิญญา 6 เรื่อง วางแนวทางการทำงาน 2 ปี ต่อจากนี้ “ร่วมสร้างประเทศไทยให้น่าอยู่”

 เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุม ไบเทค บางนา สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และภาคีเครือข่ายสร้างเสริมสุขภาพกว่า 300 องค์กร ร่วมจัดเวที “สานงาน เสริมพลัง ร่วมสร้างประเทศไทยให้น่าอยู่” เนื่องในโอกาสที่การดำเนินงานของ สสส. ครบรอบปีที่ 12 โดยมีผู้มาร่วมงานกว่า 5,000 คน

โดย. ศ.เกียรติคุณ นพ.เกษม วัฒนชัย องค์มนตรี กล่าวปาฐกถาพิเศษ “สุขภาพในทศวรรษต่อไป” ว่า การทำงานเรื่องสุขภาพในทศวรรษต่อไป ต้องมีหลักคิดมิติทางสุขภาพ 4 ด้าน คือ กาย จิต สังคม จริยธรรมปัญญา ต้องทำให้ครบทุกด้านไม่เฉพาะด้านใดด้านหนึ่ง จะทำให้ประเทศไทยน่าอยู่ได้ ซึ่ง สสส. มีตัวอย่างของกิจกรรมจำนวนมาก ที่ต้องถอดบทเรียนเพื่อนำมาปรับใช้ต่อไป และทำให้เกิดกระบวนการเชื่อมโยงของเครือข่าย

            
“สสส. และคนทำงานด้านสุขภาพ ควรยึดหลักการทรงงานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คือ 1.ทำงานอย่างผู้รู้จริง 2.ไม่ติดตำราแต่คำนึงถึงภูมิสังคม 3.ช่วยเขาเพื่อให้เขาช่วยเหลือตัวเอง 4.ทำจากเล็กไปใหญ่ แต่ไม่ว่าจะใหญ่หรือเล็กต้องทำให้ง่าย 5.ประหยัดเรียบง่ายและประโยชน์สูงสุด และ 6.จิตใจบริสุทธิ์ ซึ่งถ้ายึดหลักทำงานนี้ได้จะสร้างความสุขจากการได้ทำประโยชน์เพื่อผู้อื่น เพราะสังคมไทยมีความเหลื่อมล้ำสูง ประชาชนควรได้รับบริการสุขภาพที่เป็นมาตรฐานกลาง ทำเพื่อช่วยเหลือคนจนมากกว่าคนรวย เพราะงบประมาณของประเทศมีจำกัด ” ศ.เกียรติคุณ นพ.เกษม กล่าว
            
ศ.เกียรติคุณ นพ.เกษม กล่าวต่อว่า การทำงานของ สสส. ในอีก 10 ปีข้างหน้าขอให้มองด้านเศรษฐกิจ การเมือง นโยบายสาธารณะ สื่อมวลชน และการศึกษา การเดินไปข้างหน้าโดยมีเฉพาะระบบสุขภาพ แบกใส่ถุงวิ่งเป็นไม่ได้ ต้องเหลือบดูประเทศอื่น ที่เคยอยู่ในระนาบเดียวกันว่าไปถึงไหน และอีก 5-10 ปี จะเดินไปทางไหน  สิ่งที่สสส. ทำใน 12 ปี ที่ผ่านมา ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีที่จัดระบบสุขภาพให้เหมาะสมกับบริบทแบบต่างๆ โดยออกแบบให้ประหยัดเรียบง่ายและได้ประโยชน์สูงสุด การทำงานด้านสุขภาพเป็นงานปิดทองหลังพระ ต้องคิดด้วยจิตใจบริสุทธิ์ และมีความสุขจากการได้ทำประโยชน์เพื่อผู้อื่น ตามหลักการทรงงานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
           
 ทพ.กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ ผู้จัดการ สสส.  กล่าวว่า สสส. และภาคีสร้างเสริมสุขภาวะ ขอประกาศเจตจำนงร่วมกันในการขับเคลื่อนและรณรงค์การสร้างเสริมสุขภาวะให้มีความต่อเนื่อง และผลักดันให้เกิดนโยบายสาธารณะที่ส่งผลกระทบสูง โดยมีเป้าหมาย “ร่วมสร้างประเทศไทยให้น่าอยู่” ดังนี้ 1.ร่วมกันพัฒนานวัตกรรมการสร้างเสริมสุขภาวะที่สามารถขยายผล จนส่งผลกระทบต่อสุขภาวะของทุกคน 2.มีข้อตกลงร่วมที่จะยกระดับนวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพให้เป็นนโยบายสาธารณะในทุกระดับ 3.ขยายภาคีใหม่ให้ในทุกพื้นที่ และมีแนวทางการทำงานที่มีความหลากหลาย และ4.เปิดพื้นที่ทางความคิดและเปิดพื้นที่ทางกายภาพในการทำงานร่วมกันมากขึ้น
            
ทพ.กฤษดา กล่าวว่า การจัดเวที “สานงาน เสริมพลังฯ” ในระหว่าง 2 วันที่ผ่านมานี้ ได้นำมาสู่ การร่วมกันประกาศปฏิญญาที่จะร่วมดำเนินงานสร้างเสริมสุขภาวะใน 2 ปีจากนี้คือ ปี 2556-2557 รวม 6 เรื่องหลัก ดังนี้ 1.สร้างเสริมสุขภาวะอย่างสร้างสรรค์ตลอดทุกช่วงวัยให้เป็นวัฒนธรรมสุขภาพ และสร้างจิตสำนึกพลเมือง 2.ผสานเครือข่ายในทุกระดับมุ่งลดปัจจัยเสี่ยงหลักและพัฒนาปัจจัยเสริมสุขภาพ 3.ร่วมสร้างให้ชุมชนท้องถิ่นน่าอยู่ 4.ขยายแนวร่วมในการสร้างกลไก ขยายโอกาส หนุนเสริมสังคมที่เคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์มีความเสมอภาค มีภราดรภาพและเป็นธรรม 5.ปรับสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการสร้างภูมิคุ้มกันทางสุขภาวะแก่เด็ก เยาวชน และ6. ร่วมแรง ร่วมใจ ทำให้ทุกชุมชนท้องถิ่นเป็นเมืองสื่อสร้างสรรค์ 
 
 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง