นายกฯถกหน่วยความมั่นคงให้ 
หลังการประชุมหน่วยงานความมั่นคงที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผบ.สส. พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา ผบ.ทบ. พร้อมด้วย ผอ.สำนักข่าวกรองแห่งชาติ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมหารือกรณีศาลโลกมีคำวินิจฉัยคุ้มครองชั่วคราวให้ไทย และ กัมพูชาถอนทหารออกนอกพื้นที่เขาพระวิหาร นานกว่า 1 ชั่วโมงครึ่ง
ทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์ เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้วิเคราะห์ข้อเท็จจริงในพิกัดที่เป็นคำสั่งของศาลโลกในพื้นที่ปลอดทหารรวมพื้นที่ 17.3 ตารางกิโลเมตร ซึ่งรวมพื้นที่แนวสันปันน้ำแบ่งเป็นพื้นที่ฝ่ายไทย 8.5 ตร.กม. พื้นที่ฝ่ายกัมพูชา 8.8 ตร.กม. โดยฝ่ายความมั่นคงของไทยได้ประเมินกำลังทหารในพื้นที่ของกัมพูชาประมาณ 4,000 นาย ขณะที่ฝ่ายไทยมีจำนวนน้อยกว่ามาก พร้อมกันนี้ ยังย้ำว่า ไม่ต้องการให้เกิดความเข้าใจผิดในคำสั่งศาลโลกซึ่งไม่ได้ระบุเฉพาะดินแดนไทย แต่ยังกินพื้นที่ของฝ่ายกัมพูชาด้วย
อย่างไรก็ตาม ได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดูผลกระทบตามคำสั่งศาลโลกในฐานะที่ไทยเป็นสมาชิกสหประชาชาติและตามรัฐธรรมนูญของไทย แต่ถ้าจะดำเนินการถอนทหารทั้ง 2 ฝ่ายซึ่งเกี่ยวข้องกับคนจำนวนมาก จะต้องมีการเจรจากันก่อนให้เกิดความชัดเจนในทุกด้าน ทั้งนี้จึงได้มอบหมายให้ กระทรวงกลาโหม และกระทรวงการต่างประเทศ ไปดำเนินการว่า จะพูดคุยกับกัมพูชาอย่างไร แต่เห็นว่าการดำเนินการจะต้องเกิดขึ้นกับรัฐมนตรีชุดใหม่ ที่ต้องมีการประชุม ครม.หรือขอความเห็นชอบต่อรัฐสภา เนื่องจากรัฐบาลชุดนี้ ไม่สามารถกำหนดแนวทางที่กระทบหรือผูกมัดกับรัฐบาลใหม่
ขณะเดียวกันยังกล่าวย้ำว่า กำลังทหารของไทยยังอยู่ในที่ตั้ง และเป็นไปไม่ได้ที่ทหารไทยจะถอนกำลังทันที เพราะเกี่ยวข้องกับกำลังพลจำนวนมากจึงต้องมีกระบวนการพูดคุยกับกัมพูชา
ส่วนคำสั่งของศาลที่ไม่ให้ประเทศไทยขัดขวางการส่งเสบียงของฝ่ายกัมพูชามายังตัวปราสาทต้องพูดคุยกับกัมพูชาว่า ต้องมีการตรวจสอบว่าต้องไม่มีการส่งทหารไม่ว่ารูปแบบใดและเป็นไปตามขอบเขตที่กำหนดไว้ ส่วนชุมชนในพื้นที่ต้องตรวจสอบว่าเป็นพลเรือนหรือไม่หรือเกี่ยวพันกับทหารของกัมพูชา
นอกจากนี้ นายอภิสิทธิ์ ยังยืนยันว่า คำวินิจฉัยของของศาลโลกไม่มีผลต่อเส้นเขตแดน และ ไม่มีการเสียดินแดน เพราะเป็นคำสั่งชั่วคราวให้ทหารทั้ง 2 ฝ่ายถอนกำลังเพื่อไม่ให้เกิดการเผชิญหน้ากัน