กรณีเจ้าหน้าที่ชุดเหยี่ยวดงสืบทราบว่ามีการซื้อขายสัตว์ป่าคุ้มครองผ่านเฟซบุ๊ก และมีการนัดรับของบริเวณเคหะชุมชนรามคำแหง แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี กทม. เจ้าหน้าที่จึงร่วมกันวางแผนจับกุม เมื่อถึงที่เกิดเหตุพบชายคนหนึ่งพร้อมของกลางนกกระรางหัวหงอก ซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองและไม่มีหลักฐานการได้มาของทางราชการ ไม่มีเครื่องหมายประจำตัวสัตว์ป่าแต่อย่างใด รับสารภาพขายสัตว์ป่าคุ้มครองผ่านทางเฟซบุ๊กมาประมาณ 2 ปี
จากการสอบสวน ทำให้ทราบว่าชายดังกล่าวเคยถูกเจ้าหน้าที่จับกุมไปครั้งหนึ่งแล้วเมื่อวันที่ 7 ส.ค.2563 ซึ่งเป็นการประกาศขายสัตว์ป่าคุ้มครองผ่านเฟซบุ๊กเช่นเดียวกัน และครั้งนี้ได้เปลี่ยนชื่อเฟซ บุ๊กใหม่ เพื่อหลบเลี่ยงเจ้าหน้าที่ แต่ก็ถูกจับกุมได้ในที่สุด โดยในครั้งแรกศาลลงโทษ ปรับ 7,500 บาท จำคุก 1 ปี โทษจำคุกให้รอลงอาญา
ภาพ:กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช
เจ้าหน้าที่จึงควบคุมผู้ต้องหานำส่งพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ฐานความผิดตามมาตรา 17 ฐาน “มีสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากอธิบดี” มีอัตราโทษตามมาตรา 92 จำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ มาตรา 29 ฐาน “ค้าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” มีอัตราโทษตามมาตรา 89 จำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ประกอบมาตรา 112 และ มาตรา 116 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562