แนะวิธีเอาตัวรอด "รถตกคลอง" หลังเกิดอุบัติเหตุซ้ำจาก "จีพีเอส"

เกิดอุบัติเหตุรถตกคลองบางบัวทอง ซึ่งมีต้นเหตุเดียวกับเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ที่ จ.นครสวรรค์ คือใช้จีพีเอสนำทาง ผู้เชี่ยวชาญเผยเมื่อรถตกน้ำระบบไฟฟ้าจะยังคงทำงานได้ประมาณ 4-5 นาที แนะนำคนขับรถตั้งสติ แล้วลดกระจกไฟฟ้าในทันที จากนั้นรีบออกจากรถให้เร็วที่สุด

วันนี้ (18 พ.ย.2564) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จุดทางเบี่ยงกลับรถใต้สะพานข้ามคลองบางบัวทอง ต.ท่าอิฐ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เป็นอีกจุดที่เกิดอุบัติเหตุรถยนต์ตกลงไปในคลองเมื่อวันที่ 15 พ.ย.ที่ผ่านมา ขณะนี้พบเพียงซากชิ้นส่วนรถและร่องรอยที่รถพุ่งตก เนื่องจากประกันภัยได้นำรถยนต์ดังกล่าวขึ้นจากคลองเพื่อนำไปตรวจสอบแล้ว

เจ้าของรถยนต์คันที่เกิดอุบัติเหตุ ส่งคลิปเสียงเล่าเหตุการณ์ว่า ช่วงเช้ามืดในวันเกิดเหตุ จะเดินทางไปหาเพื่อนที่อยู่แถวถนนราชพฤกษ์ ใช้เส้นทางจากรังสิตมุ่งหน้าถนนงามวงศ์วาน เข้าสู่ถนนรัตนาธิเบศร์ โดยใช้จีพีเอสนำทาง

แต่เมื่อมาถึงใกล้จุดเกิดเหตุ จีพีเอสบอกว่าให้ใช้ทางเบี่ยงซ้าย ตัวเองขับตามที่บอกด้วยความเร็ว แต่เมื่อมาถึงพบว่าเป็นทางโค้ง ทำให้บังคับรถเลี้ยวไม่ทัน จึงวิ่งขึ้นทางเท้าชนราวสะพานทางเดิน ก่อนรถเสียหลักหมุนตกคลอง ก่อนขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน

สอบถามนาย วสันต์ โฉมโต อายุ 51 ปี เจ้าหน้าที่โรงเรียนนนทบุรีวิทยาลัย กล่าวว่า ขณะที่กำลังจะเดินไปทำงานที่โรงเรียน ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากจุดที่เกิดเหตุ พบชายหนุ่มนั่งอยู่ริมคลองสภาพเนื้อตัวเปียกน้ำ สังเกตเห็นที่แขนมีรอยแผล จึงได้สอบถามว่าเป็นอะไร ชายคนดังกล่าวตอบว่า เขาขับรถตกลงไปในคลอง เพราะไม่รู้เส้นทาง และขับรถตามจีพีเอส อย่างไรก็ตาม จุดนี้เกิดอุบัติเหตุบ่อยมาก เมื่อสองคืนก่อนมีรถเก๋งพุงชนรั้วทางเดินเสียหาย แต่คนขับไม่เป็นอะไร

ทดสอบระบบนำทาง ในจุดเกิดอุบัติเหตุ

หลังเกิดเหตุ ทีมข่าวไทยพีบีเอสทดสอบขับรถและใช้จีพีเอสนำเส้นทางไปที่จุดเกิดเหตุ เพื่อทดลองดูการบอกเส้นทางในระบบหน้าจอโทรศัพท์ หากไม่สังเกตเส้นทางให้ชัดเจน อาจทำให้เข้าใจได้ว่า สามารถขับตรงไปได้

แต่ถ้าขยายหน้าจอและฟังเสียงคำแนะนำของจีพีเอสไปด้วย จะพบว่าเมื่อแล่นอยู่เส้นถนนกลับรถ จีพีเอสจะแนะนำให้เบี่ยงไปใช้ทางขวาเพื่อขึ้นสะพานข้ามคลอง และย้ำให้ชิดขวาอีกครั้ง เมื่อทีมข่าวยังวิ่งอยู่เส้นถนนกลับรถดังกล่าว

สภาพพื้นที่จริงพบว่า มีป้ายขนาดใหญ่ แจ้งว่า "กลับรถใต้สะพาน" อยู่ก่อนถึงจุดเกิดเหตุประมาณ 1 กิโลเมตร และมีไฟฟ้าส่องสว่างหลายเสา ในเส้นทางกลับรถอย่างเห็นได้ชัด

ทั้งนี้ หลังจากเกิดเหตุรถยนต์ตกลงน้ำ เจ้าหน้าที่กรมทางหลวงนำแผงเหล็กมากั้นตรงแนวช่องว่างของถนน และนำแท่งแบริเออร์มากั้นซ้อนอีกชั้น ตรงจุดติดกับคลอง

นายสืบศักดิ์ สืบภักดี เลขาธิการสมาคมโทรคมนาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ย้ำว่า จีพีเอสยังมีข้อจำกัดที่ยังไม่สามารถระบุการเปลี่ยนแปลงของถนน รวมทั้งความคลาดเคลื่อนของดาวเทียมที่จับสัญญานขณะใช้งาน

ทีมข่าวไทยพีบีเอสทดลองค้นหาคำว่า "GPS" กับคำว่า "อุบัติเหตุ" และ "หลงทาง" ในอินเทอร์เน็ต พบว่า มีข้อมูลที่เกิดขึ้นหลายเหตุการณ์ ซึ่งส่วนหนึ่งเกิดขึ้นการนำทางด้วยจีพีเอส รวมถึงยังพบว่า มีเหตุการณ์ที่ระบบจีพีเอสนำไปสู่การหลงทาง เช่น วันที่ 3 มี.ค.ที่ผ่านมา รถขนส่งสินค้าขับตามจีพีเอส และหลงทางไปในป่า เลยที่อ.ท่าสองยอง จ.ตาก ช่วงเวลา 01.00 น. และทำให้ต้องโทรฯ แจ้งกู้ภัยเข้าช่วยเหลือ

วิธีเอาตัวรอด เมื่อรถตกน้ำ

นายอัญวุฒิ โพธิ์อำไพ หัวหน้ารถกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู แนะนำวิธีเอาตัวรอดจากเหตุการณ์รถตกน้ำว่า เมื่อรถตกลงไปในน้ำระบบไฟฟ้าของรถยนต์จะทำงานได้อีก 4-5 นาที ซึ่งหลังจากตั้งสติแล้วให้รีบปลดเข็มขัดนิรภัยออก และปลดล็อกประตู กดกระจกไฟไฟ้าลง แล้วรีบออกจากรถทางหน้าต่างทันที

หากระบบไฟฟ้าใช้ไม่ได้แล้ว ให้ถอดพนักพิงศีรษะออก แล้วนำก้านเหล็กเสียบเข้าไปบริเวณซอกระหว่างประตูและกระจกหน้าต่าง จากนั้นให้ออกแรงงัดจนกระทั่งกระจกแตก แล้วรีบออกจากรถ