"พาณิชย์" ส่ง "เกมส์-แฟชั่น -ภาพยนตร์" Soft Power ไทย โกอินเตอร์

เศรษฐกิจ
14 ธ.ค. 66
12:14
621
Logo Thai PBS
"พาณิชย์" ส่ง "เกมส์-แฟชั่น -ภาพยนตร์" Soft Power ไทย โกอินเตอร์
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
พาณิชย์ติดปีกผู้ประกอบการไทย “Soft Power X "ภูมิธรรม” ควง "อุ้งอิ๊ง"ดันส่งออกซอฟต์พาวเวอร์ไทยสู่ตลาดโลก ตั้งเป้าเพิ่มรายได้ 20 ล้านครัวเรือน ฝันขนเงินเข้าประเทศ 4 ล้านล้านบาทต่อปี

วันนี้ (14 ธ.ค.2566) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวในเวที ติดปีกการค้าให้ผู้ประกอบการไทยด้วย Soft Power X ทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งมี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติเข้าร่วมในงานดังกล่าว ว่า ปัจจุบันเศรษฐกิจโลกเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ทั้งปัจจัยทางสังคม โรคระบาด ความขัดแย้งระหว่างประเทศไทยต้องปรับรูปแบบการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ทรัพย์สินทางปัญญาเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญและใช้ยกระดับการค้าระหว่างประเทศในเวทีโลกให้สามารถก้าวข้ามกับดักประเทศที่มีรายได้ปานกลางไปสู่ประเทศที่มีรายได้สูงในอนาคต

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานเปิดงานสัมมนา “ติดปีกทางการค้าให้ผู้ประกอบการไทยด้วย Soft Power X ทรัพย์สินทางปัญญา” พร้อมด้วย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานเปิดงานสัมมนา “ติดปีกทางการค้าให้ผู้ประกอบการไทยด้วย Soft Power X ทรัพย์สินทางปัญญา” พร้อมด้วย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานเปิดงานสัมมนา “ติดปีกทางการค้าให้ผู้ประกอบการไทยด้วย Soft Power X ทรัพย์สินทางปัญญา” พร้อมด้วย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ

ดังนั้นเพื่อผลักดันซอฟต์พาวเวอร์ไทยเต็มที่ การสร้างความรู้ด้านทรัพย์สินทางปัญญาและส่งเสริมผู้ประกอบการไทยไปตลาดต่างประเทศ รัฐบาลต้องการเปลี่ยนให้ไทยเป็นประเทศอุดมสมบูรณ์ด้านวัฒนธรรม สร้างรายได้ให้ประเทศอย่างยั่งยืน โดยออกนโยบาย 1 ครอบครัว 1 ซอฟต์พาวเวอร์ หรือ One Family One Soft Power (OFOS) สอดแทรกวัฒนธรรมไทยไปสู่ผู้บริโภคทั่วโลกสร้างการยอมรับวัฒนธรรมไทยที่มีพลังสูงเปลี่ยนทักษะพื้นบ้านเป็นทักษะสร้างสรรค์ สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจของไทยให้เติบโตขึ้น

นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า กระทรวงพาณิชย์ตั้งเป้าหมายสร้างงานให้คนไทย 20 ล้านตำแหน่ง สร้างรายได้ 4 ล้านล้านบาทต่อปีผ่านอุตสาหกรรม 11 สาขา ประกอบด้วย ท่องเที่ยว เทศกาล กีฬา อาหาร ภาพยนตร์ ดนตรี ศิลปะ หนังสือ เกม ออกแบบและแฟชัน ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ตั้งแต่ต้นน้ำกลางน้ำและปลายน้ำ โดยการสร้างแบรนด์นวัตกรรมและการออกแบบผลักดันสู่ตลาดโลก

โดยกลุ่มสินค้าเป้าหมายสำคัญ คือ อาหาร ดิจิทัลคอนเทนต์ มวยไทย การท่องเที่ยว หนังสือ และเกม ล่าสุดกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศนำผู้ประกอบการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าอาหารเพื่อส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ไทยด้านอาหารผ่านครัวไทยสู่ครัวโลก เช่น งาน Anuga ที่เยอรมนี สร้างมูลค่ากว่า 5,300 ล้านบาท

และงานแสดงสินค้ากลุ่มดิจิทัลคอนเทนต์ เช่น งาน ASIAN Contents & Film Market ประเทศเกาหลีใต้ และงาน TIFFCOM (ทิฟคอม) ประเทศญี่ปุ่น เป็นต้น สร้างรายได้รวมกว่า 2,600 ล้านบาท หวังว่าซอฟต์พาวเวอร์ จะเป็นกลไกสำคัญที่จะช่วยสร้างรายได้ให้พี่น้องประชาชนมีบทบาทในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ 

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานเปิดงานสัมมนา “ติดปีกทางการค้าให้ผู้ประกอบการไทยด้วย Soft Power X ทรัพย์สินทางปัญญา” พร้อมด้วย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาต

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานเปิดงานสัมมนา “ติดปีกทางการค้าให้ผู้ประกอบการไทยด้วย Soft Power X ทรัพย์สินทางปัญญา” พร้อมด้วย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาต

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานเปิดงานสัมมนา “ติดปีกทางการค้าให้ผู้ประกอบการไทยด้วย Soft Power X ทรัพย์สินทางปัญญา” พร้อมด้วย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาต

ด้านนางสาวแพทองธาร กล่าวว่า นโยบายซอฟต์พาวเวอร์จะเป็นนโยบายหลักผลักดันเศรษฐกิจของประเทศให้ดีขึ้น ให้ประชาชนมีรายได้เพิ่ม ขณะนี้รัฐบาลกำลังทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ ด้วยการผลักดันอุตสาหกรรมต่างๆเพื่อให้ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ เน้นเศรษฐกิจให้มีพลังอำนาจและการขับเคลื่อนวัฒนธรรม หากวัฒนธรรมใดมีคนคล้อยตามโดยไม่ต้องบีบบังคับจะทำให้เกิดมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ และจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ให้กับภาคธุรกิจและคนไทยทั้งประเทศ ถือเป็นการนำสินทรัพย์ทางปัญญาที่มีคุณค่าของไทยให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก โดยจะต้องทำทั้งระบบ

เช่น การทำ OTOP สนับสนุนสินค้าไทยอย่างเป็นระบบ ครัวไทยสู่ครัวโลก สร้างเชฟไทยส่งออกไปต่างประเทศ ทำให้อาหารไทยเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก การสนับสนุนแฟชั่นครั้งใหญ่ ส่งเสริมการจัดงานกรุงเทพเมืองแฟชั่นจุดพลุให้ทั่วโลก เพื่อให้ต่างชาติมองเห็นศักยภาพแฟชั่นไทย โดยทำตั้งแตต้นน้ำ กลางน้ำและปลายน้ำ 

อ่านข่าว:

ราคาทองคำดีด ! พุ่ง 200 บาท คาดปรับรับ "เฟด" คงอัตราดอกเบี้ยแรงงาน-นายจ้าง ยิ้มไม่ออก ! ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 2 บาท "ดีกว่าไม่ได้"

ข่าวที่เกี่ยวข้อง