อดีตเลขา สมช.เชื่อความเป็นตำรวจ 
นับแต่วันที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคงก้าวเข้าเจรจาต่อรองตำแหน่ง "ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ" กับ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี และ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ จนถึงวันนี้ 1 เดือนเต็มที่ข้อตกลงตกผลึกเป็นมติ ครม. แต่งตั้ง พล.ต.อ.วิเชียร เป็นเลขาธิการ สมช. หลังจากนี้ต้องเรียกประชุมคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ หรือ ก.ต.ช.เสนอชื่อ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ก่อนลงมติเลือก และแต่งตั้งเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนใหม่ โดยคาดการณ์กันว่า หลัง ก.ต.ช. ประชุมนัดพิเศษในวันพรุ่งนี้ ก็อาจเป็นไปได้ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายตำรวจ หรือ ก.ต.ร. เพื่อลงมติเลือก และแต่งตั้งกันในกลางสัปดาห์หน้า
การเข้ารับหน้าที่เลขาธิการ สมช. ของข้าราชการตำรวจ โดย พล.ต.อ.วิเชียร ครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกใน สมช. ที่มีการโยกข้ามห้วยจากสีกากีเข้ามา โดยก่อนหน้านี้ จะเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญและข้าราชการทหาร ในมุมมองของ อดีตเลขาธิการ สมช. อย่างนายขจัดภัย บุรุพัฒน์ เห็นว่า บุคลากรใน สมช.จะเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนงานไม่ต่างจาก นายถวิล เปลี่ยนศรี ก็เชื่อตรงกัน แม้จะเชื่อว่าการแต่งตั้งโยกย้ายที่เกิดขึ้นทำให้ สมช.เสียขวัญและกำลังใจไปบ้าง ส่วนงานด้านความมั่นคงที่ท้าทาย พล.ต.อ.วิเชียรนั้น อดีตเลขาธิการ สมช.ทั้ง 2 คน ประเมินสถานการณ์ตรงกันถึงประเด็นคลื่นใต้น้ำทางการเมืองที่น่าจะยังคุกรุ่นรอวันระเบิด ด้วยการลุกขึ้นมาต่อต้านรัฐบาล และปัญหาเพื่อนบ้านไทย-กัมพูชา ที่มวลชนบางฝ่ายเตรียมพร้อมลุกขึ้นมาปกป้องประโยชน์ของประเทศ
แม้ตามกรอบคณะกรรมการพิทักษ์คุณธรรม หรือ ก.พ.ค.ต้องสรุปความเห็นตามคำร้องของนายถวิล ที่ยื่นเรื่องของความเป็นธรรม หลังถูกปรับโยกจาก เลขาธิการ สมช. เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี รวม 180 วัน ซึ่งจะครบกำหนด วันที่ 12 มีนาคม ปี 2555 อาจเป็นช่องว่างของการสูญเสียโอกาสในตำแหน่งเดิม แต่ด้วยอายุการรับราชการ นายถวิล จะเกษียณ ปี 2557 ขณะที่ พล.ต.อ.วิเชียร จะเกษียณในปี 2556 ดังนั้น อาจเป็นอีกห้วงหนึ่งที่รัฐบาลต้องไตร่ตรองความเหมาะสมอีกครั้ง หาก ก.พ.ค.เห็นควรให้ความเป็นธรรมปรับโยก นายถวิล กลับมานั่งเก้าอี้เลขาธิการ สมช. เพราะจนถึงขณะนี้ นายถวิล ยังคงย้ำที่จะขอความเป็นธรรมตามคำร้องเช่นเดิม