สบน.พร้อมรับหนี้จากรัฐวิสาหกิจ แต่ต้องนำทรัพย์สินมาแลกให้คลังบริหารแทน

เศรษฐกิจ
4 มี.ค. 55
18:00
15
Logo Thai PBS
สบน.พร้อมรับหนี้จากรัฐวิสาหกิจ แต่ต้องนำทรัพย์สินมาแลกให้คลังบริหารแทน

ระบุรถไฟมีทรัพย์สินมาก มีความเป็นไปได้สูงอาจใช้แนวทางเหมืิอนเอฟไอดีเอฟ พร้อมเดินหน้าหาเงินกู้ลงทุนด้านน้ำก้อนแรก 3 หมื่นล้าน

นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ(สบน.)เปิดเผยถึงแนวคิดการยกเลิกการค้ำประกันเงินกู้้ให้รัฐวิสาหกิจที่มีหนี้สินและขาดทุนสะสมมานาน เพื่อลดภาระหนี้สาธารณะของภาครัฐอีกทางหนึ่งว่า หากรัฐบาลจะจัดสรรงบประมาณชำระหนี้ให้แต่ละปีก็มีความเป็นไปได้ โดยอยู่ระหว่างหารือของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงคมนาคม เช่น การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.)และองค์การขนส่งมวลชนมวลชนกรุงเทพ(ขสมก.) ทางรมว.คมนาคมเห็นด้วยกับแนวทางลดภาระหนี้ดังกลาว จึงอาจนำข้อเสนอเดิมของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ(สคร.) ที่เสนอให้นำทรัพย์สินมาแลกกับการรับภาระหนี้ โดยส่วนของรถไฟนั้นถืิอว่ามีทรัยพ์สินที่อยู่ในการครอบครองจำนวนมาก

ทั้งนี้ หากรถไฟโอนทรัยพ์สินบางส่วนมาเท่ากับหนี้สินที่มีอยู่กระทรวงการคลังโดยสคร.จะทำหน้าที่บริหารให้มีผลตอบแทนเพื่อนำรายได้นำส่งเข้ารัฐต่อไป ส่วนหนี้ที่โอนมานั้นรัฐบาลก็จะตั้งงบประมาณชำระให้ในแต่ละปีจนกว่าจะล้างหนี้ได้ทั้งหมด

"เมื่อรถไฟหรือขสมก.โอนหนี้มาให้กระทรวงการคลังแล้วฐานะของท้ังสองแห่งก็จะดูดีขึ้น หากจะตั้งบริษัทลูกเพื่อดำเนินธุรกิจก็สามาระระดมทุนหรือกู้เงินได้เองโดยที่ก้ระทรวงไม่ต้องค้ำประกันให้อีกต่อไป แต่เมื่อหนี้เก่าหายไปแล้วก็ต้องมีแผนบริหารจัดการในการหารายได้ที่ชัดเจนเพื่อให้สอดรับกับรายจ่ายด้วย "

นายจักรกฤศฎิ์กล่าวว่า แนวทางแก้ปัญหาหนี้สินของ 2 แห่งน่าจะมีความเป็นไปได้สูงเพราะรัฐมนตรทั้ง 2 กระทรวงมีความคิดเห็นไปในทางเดียวกัน โดยการรับหนี้จากรัฐวิสากิจดังกล่าวอาจเหมือนการรับภาระหนี้ของกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันนการเงินที่มีการเคลียร์หนี้ท้้ั้ง ก้อนแลัวมาตั้งงบชำระคืนในแต่ละปีจนกว่าจะหนด

สำหรับการตั้งงบชำระหนี้ในปีงบประมาณ 2556 ขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจาขอจัดสรรวงเงินจากสำนักงบประมาณ ซึ่งน่าจะได้รับจัดสรรลดลงหลังภาระหนี้กองทุนฟื้นฟูหายไป6หมื่นล้านบาท แต่จะพยายามรักษาะดับการชำระหนี้เงินต้นให้ได้ 3%ของวงเงินงบประมาณที่เหลือเป็นการชำระดอกเบี้ย เหตุที่ไม่ได้รับการจัดสรรเพิ่มเพราะรัฐบาลต้องการนำไปเพิ่มในสัดส่วนงบลงทุน

นายจักรกฤศฏิ์กล่าวถึงการกู้เงินลงทุนบริหารจัดการน้ำว่า ขณะนี้มีความชัดเจนเฉพาะการลงทุนสร้างเขื่อนหรือแนวป้องกันน้ำท่วมตามแม่น้ำเจ้าพระยา วงเงิน3หมื่นล้านบาท แค่การกู้เงินจะทำตามกรอบการใช้เงินเพราะคงไม่ได้สร้างเสร็จพร้อมกันอาจเป็น 3 เดือน6เดือนหรือ1ปีขึ้นอยู่กับว่าโครงการเดินไปได้เร็วแค่ไหน จึงจะทยอยเบิกเงินกู้ากสถาบันกาเงินซึ่งขผณะนี้ก็ยังไม้ได้เรียกให้มาเสอนออัตราดอกเบี้ยแต่คาดว่าาจะมีทั้งแบงก์รัฐและเอกชนให้ความสนใจ

ทั้งนี้ จะพยาามใช้สภาพคล่องในประเทศก่อน แค่หากเงื่นไขไม่ดีก็ยังมีวงเงินที่ไจก้าเปิดไว้ให้อีก1,000ล้านเหรีญสหรัฐที่ไทยสามารถกู้มาลงทุนด้านน้ำได้ ส่วนอีก 6 หมื่นล้่านบาทสำหรับจ่ายชดเชพื้นที่รับน้ำนั้นยังไม่มีความชัดเจนและอาจไม่ได้ใช้ตามที่กำหนดไว้ขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำที่เข้าไปในพื้นที่จึงไม่จำเป็นต้องรีบกู้

 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง