ทีมแพทย์ติดเชื้อโคโรนา 4 คน-ยอดเสียชีวิตในไทย 4 คน

ทีมแพทย์ติดเชื้อโคโรนา 4 คน-ยอดเสียชีวิตในไทย 4 คน

ทีมแพทย์ติดเชื้อโคโรนา 4 คน-ยอดเสียชีวิตในไทย 4 คน

รูปข่าว : ทีมแพทย์ติดเชื้อโคโรนา 4 คน-ยอดเสียชีวิตในไทย 4 คน

กระทรวงสาธารณสุข แถลงผู้ป่วยไวรัสโคโรนา (COVID-19) เพิ่มอีก 106 คนรวมป่วยสะสม 827 คน เสียชีวิตเพิ่มอีก 3 คนรวมตายสะสม 4 คน ขณะที่พบว่ามีบุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อ 4 คน สาเหตุผู้ป่วยไม่แจ้งประวัติเสี่ยง ยืนยันศพไม่แพร่เชื้อ แต่ให้คนร่วมงานระวัง

วันนี้ (24 มี.ค.2563) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกกระทรวงสาธารณสุข แถลงสถานการณ์ไวรัสโรโรนา (COVID-19) ของประเทศไทย ล่าสุดวันนี้พบผู้ป่วยเพิ่ม 106 คน เป็นผู้ป่วยลำดับที่ 722-827 คน โดยมีผู้เสียชีวิตสะสมในไทยรวม 4 คน รักษาหายป่วยกลับบ้าน 57 คน รักษาตัวในโรงพยาบาล 766 คน และอาการหนัก 4 คน ทุกรายใส่เครื่องช่วยหายใจ 

ผู้เสียชีวิตเพิ่ม 3 คน เป็นคนไทยอายุ 70 ปี ที่มีวัณโรคร่วม ผู้ป่วยคนไทยอายุ 79 ปี เกี่ยวข้องสนามมวย อาการหนักตั้งแต่แรกรับ มีโรคประจำตัวหลายโรค และผู้ป่วยวัย 45 ปี มีภาวะโรคเบาหวานและโรคอ้วน

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า สำหรับผู้ป่วยยังเป็นกลุ่มเดิมกลุ่ม 1 เกี่ยวข้องกับสนามมวย สถานบันเทิง และผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วย รวมอีก 25 คน แบ่งเป็นสนามมวย 5 คน เป็นผู้ชม เซียนมวย สถานบันเทิงทองหล่อ อาร์ซีเอ และนานา 6 คน และสัมผัสผู้ป่วยหน้านี้ 12 คน ร่วมพิธีทางศาสนาที่มาเลเซีย 2 คน

พบบุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อ 4 คน

ส่วนกลุ่มที่ 2 ผู้ป่วยรายใหม่ 34 คน คือ  เดินทางมาจากต่างประเทศ เป็นชาวต่างชาติ 20 คน คนไทย 8 คน เป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน นักศึกษา พนักงานที่ร้านปอยเปด และต่างชาติ 12 คน เช่น ฝรั่งเศส อังกฤษ และกลุ่มที่ทำงานในสถานที่แออัด 10 คน หรือเกี่ยวข้องคนต่างชาติ เป็น พนักงานรกัษาความปลอดภัย คนขับรถ ไกด์

พบบุคลากรการแพทย์ ติดเชื้ออีก 4 คนใน ยะลา นครปฐม สาเหตุผู้ป่วยไม่ได้บอกไม่แจ้งประวัติเสี่ยงก่อน ทำให้กระทบระบบสาธารณสุข แต่อาการยังไม่น่าเป็นห่วง และกลุ่มที่ยืนยัน พบเชื้อแต่รอบสอบสวนโรค 47 คน

ขณะนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้จัดทำข้อมูลสถานที่ชุมนุมชนที่มีประกาศให้ผู้เกี่ยวข้องเฝ้าระวังตนเองใน 25 แห่ง ใน 7 จังหวัด ได้แก่ อุบลราชธานี ขอนแก่น กทม. สงขลา นครราชสีมา นนทบุรี และสุรินทร์ โดยผู้ที่อยู่ในสถานที่ และช่วงเวลาตามประกาศ ขอให้รายงานตัวต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ

 

ด้าน พญ.วลัยรัตน์ ไชยฟู ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กล่าวว่า ผู้ป่วยส่วนหนึ่งรอผลการสอบสวนโรคจากพื้นที่ การคัดกรองที่ด่านเมื่อวานนี้ (23 มี.ค.) รวม 50,000 คน ตั้งแต่วันที่ 3 ม.ค.ที่ผ่านมารวม 6 ล้านคน โดยส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยชาย และคนไทยเป็นหลัก กระจายไปยัง 47 จังหวัด แต่ศูนย์กลางใน กทม.

อัตราการแพร่เชื้อใน 7 วันในเขต กทม.และปริมณฑล พบว่า 1 : 3.4 ส่วนต่างจังหวัด 1 : 2 โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือสงขลา ปัตตานี ยะลา ภูเก็ต ที่พบผู้ป่วยมากขึ้น 

ข้อมูลคาดการณ์ที่บอกว่าอีก 2 สัปดาห์ตัวเลขคนติดเชื้อจะเพิ่มเป็นหลักแสนนั้น ชี้แจงว่า พอช่วงที่ผู้ป่วยเพิ่มขึ้นก็ปรับคาดการณ์ใหม่ ตัดเป็นระยะสั้นๆ และดูมาตรการลดตัวเลขติดเชื้อว่าเหมาะสมเพียงพอหรือไม่ ทั้งส่วนของรัฐบาลและประชาชนร่วมมือด้วย

ดังนั้นนอกจากการประกาศมาตรการปัจจุบันทั้งปิดสถานที่เสี่ยงที่ลดลงได้ 50 แต่อยากใช้มาตรการ หลักอื่นๆโดยเฉพาะคาดการณ์ว่า Social distancing จะช่วยลดการแพร่เชื้อได้ถึง 80% 

ภาพ:กระทรวงสาธารณสุข

ภาพ:กระทรวงสาธารณสุข

เผาศพได้ปกติ คนตายไม่แพร่เชื้อ

นอกจากนี้ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า หากช่วยกันจะลดผู้ป่วยให้อยู่ในหลักร้อย ไม่ใช่แค่ครึ่งเดียวของประเทศ ซึ่งตัวเลขติดเชื้อคาดการณ์จะอยู่หลักพัน และอาจถึงหลักหมื่นคน 

ส่วนผู้เสียชีวิตเพิ่มทั้ง 3 คนมีคำถามว่าเกิดจาก COVID-19 หรือมาจากโรคอื่นร่วมด้วย พบว่ามีการป่วยด้วยวัณโรคมาก่อน และล่าสุดไม่มีเชื้อ COVID-19 แล้ว แต่พยาธิสภาพทางปอดเสียหายจากการติดเชื้อตัวนี้ ทำให้เสียชีวิต

กรณีผู้เสียชีวิตคนที่ 2 ที่เกิดปัญหาวัดปฏิเสธไม่เผาศพ เพราะกังวลว่าเชื้อจะแพร่ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่ามีการยืนยันจากผู้เชี่ยวชาญด้านการระบาดว่า ศพคนตายไม่สามารถไอ จาม ได้ และขอให้มั่นใจว่าจะไม่เกิดการแพร่เชื้อจากศพ ที่ผ่านมาผู้เสียชีวิตหลายคนไม่มีเชื้อ COVID-19 แต่มาจากวัณโรค แต่คนก็งานศพที่ป่วยจากวัณโรค ทำไมถึงไม่กังวล

การทำศพทางศาสนายังทำได้ตามปกติ ไม่ต้องกังวลมาก แต่คนที่น่าห่วงคือผู้ที่ไปร่วมงานมากกว่า เพราะเชื้ออยู่ในคนปกติ แม้จะบอกว่าไม่ต้องกังวล แต่ยังเน้นให้ดูแลตามความเหมาะสมทุกคน ป้องกันตัวเอง
ภาพ:กระทรวงสาธารณสุข

ภาพ:กระทรวงสาธารณสุข

ยอมรับเชื้อกระจายทั่วประเทศ

นอกจากนี้ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า หากต้องลงไปหาเหตุเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ ณ ตอนนี้ถือว่าทุกคนมีความเสี่ยงทั้งหมดที่ไปสนามมวยในวันนั้น การค้นหาว่าใครเป็นซูเปอร์สเปรดเดอร์ก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว เน้นระบบการป้องกันควบคุมโรคเป็นสำคัญ

ยอมรับว่าตอนนี้เชื้อกระจายไปทั่วประเทศแล้ว เป็นสิ่งที่ไม่ได้คาดคิด แต่ไม่ต้องโทษกัน เมื่อเกิดขึ้นแล้วก็ต้องช่วยกัน พวกเขาไม่ได้เจตนาหรอก ไม่มีใครอยากเจ็บป่วย ควรรีบรักษาให้หายเป็นปกติ ไม่ติดต่อคนอื่น

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ห่วงคน กทม.กลับภูมิลำเนา เสี่ยงแพร่ COVID-19 ผู้สูงอายุ  

เสียชีวิตคนที่ 2 ชายไทยวัย 70 ปี สู้ COVID-19 เกือบ 2 เดือน

องค์การอนามัยโลก เตือน COVID-19 ยังระบาดอย่างรวดเร็ว

 

 

 

 

กลับขึ้นด้านบน